วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เขม่น ลางสังหรในตัวคุณ ที่บอกโชคลางได้

หลาย ๆ คนคงเคยตากระตุก หรือเขม่น คือการที่กล้ามเนื้อบริเวณรอบๆ ตาบางส่วนกระตุก ๆ ซ้ำๆ
ไม่สม่ำเสมอและบังคับไม่ได้ เชื่อว่าเมื่อตากระตุกสิ่งแรกที่ท่านจะนึกถึงก็คือ "ขวาร้าย ซ้ายดี"
ซึ่งก็คือถ้าตาด้านขวากระตุกก็จะเกิดเรื่องไม่ดีให้ระวัง แต่ถ้าหากตาข้างซ้ายกระตุกก็จะเจอเรื่องดีๆ
นี่เป็นความเชื่อแต่โบราณที่บอกเล่า ลางสังหรณ์เกี่ยวกับการเขม่นที่เกิดขึ้น ซึ่งจริงๆ ตาเขม่น หรือตากระตุก
ยังมีรายละเอียด คำทำนายอีกดังนี้
เขม่นในตอนเช้า (นับจากตื่นนอน ใกล้รุ่ง)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : จักมีญาติมิตรต่างแดนมาหา
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จักมีปากเสียงทะเลาะวิวาท หรือมีเรื่องเดือดร้อนมาสู่

เขม่นในตอนสาย
 (นับจากเวลา 9.00 - 12.00 หรือเที่ยงวัน)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : ญาติมิตรต่างแดนหรือต่างแดงหรือต่างจังหวัดจะนำลาภมาให้
ถ้าเขม่นนัยน์์ตาเปลือกตาซ้าย : จะเกิดเรื่องไม่ดีงามภายในครอบครัว

เขม่นในตอนบ่าย
 (พ้นจากเที่ยงวัน - 16.00 น.)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : การที่คิดไว้หรือกำลังทำอยู่จะประสบผลสำเร็จ
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะมีเพศตรงข้ามกล่าวขวัญถึงหรืออาจมาหา

เขม่นในตอนเย็น
 (ตั้งแต่ 17.00 - 19.00 น.)
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จะมีญาติหรือเพื่อนสนิทที่อยู่ห่างไกลมาเยี่ยม
ถ้าเขม่นนัย์น์ตาเปลือกตาขวา : จักได้พบญาติหรือมิตรสหายที่จากกันไปนานโดยไม่นึกไม่ฝัน

เขม่นในตอนกลางคืน
 ( 19.00 เป็นต้นไป )
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาซ้าย : จักมีข่าวดีมาถึงในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หรือจักได้ลาภจากผลงานที่ทำไว้
ถ้าเขม่นนัยน์ตา เปลือกตาขวา : จักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว

นอกจากเกิดที่เปลือกตา หางคิ้วแล้ว การเขม่นยังเกิดได้กับผิวหนัง อวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้เช่นกัน ซึ่งโบราณมีคำทำนายเกี่ยวกับการเขม่นของอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายดังนี้
1.เขม่นหลังตาขวาทำนายว่าจะมีคนนำลาภมาให้
2.เขม่นหลังตาซ้ายทำนายว่าผู้หญิงจะบ่นถึง
3.เขม่นกึ่งกลางตาทำนายว่าจะมีคนมาต้องการพบ
4.เขม่นตาซ้ายเบื้องต่ำทำนายว่าจะมีคนพูดให้ร้ายใส่ความ
5.เขม่นจมูกทำนายว่าจะถูกคนอื่นพาลหาเรื่องราว
6.เขม่นหูขวาทำนายว่าจะได้รับข่าวร้าย
7.เขม่นหูซ้ายทำนายว่าจะมีลาภใน 3 วัน 7 วัน
8.เขม่นคอข้างขวาทำนายว่าจะมีลูกชายเป็นที่พึงพอใจ
9.เขม่นคอข้างซ้ายทำนายว่าจะมีลูกหญิงเป็นที่พึงพอใจ
10.เขม่นรักแร้ข้างขวาทำนายว่าจะเกิดความเดือดร้อน
11.เขม่นรักแร้ข้างซ้ายทำนายว่าจะมีลาภ ข้าวของเงินทอง
12.เขม่นข้างหลังทำนายว่าจะได้เป็นข้าท่าน
13.เขม่นข้างหน้าอกทำนายว่าจะพบต่างเพศที่น่ารัก
14.เขม่นริมฝีปากข้างขวาทำนายว่าจะมีลาภจากต่างเพศ
15.เขม่นริมฝีปากข้างซ้ายทำนายว่าจะเกิดปากเสียงทะเลาะวิวาท
16.เขม่นริมฝีปากตรงกลางทำนายว่าจะมีลาภทางอาหารการกิน
17.เขม่นริมฝีปากบนทำนายว่าจะมีคนเชิญไปกินเลี้ยง
18.เขม่นริมฝีปากล่างทำนายว่าจะได้รับข่าวดีจากต่างเพศ
19.เขม่นสีข้างขวาทำนายว่าจะมีโชคลาภพึงพอใจ
20.เขม่นสีข้างซ้ายทำนายว่าจะได้ลาภจากเพศตรงข้าม
21.เขม่นที่สะเอวข้างขวาทำนายว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนในการเงิน
22.เขม่นที่สะเอวข้างซ้ายทำนายว่าจะไม่ค่อยสบายกายและใจ
23.เขม่นที่สะเอวข้างซ้ายทำนายว่าจะประสบโชคกับต่างเพศ
24.เขม่นที่ขาอ่อนขวาทำนายว่าจะทะเลาะกับเพศตรงข้าม
25.เขม่นที่ขาอ่อนซ้ายทำนายว่าจะทะเลาะกับเพศเดียวกัน
26.เขม่นที่หน้าแข้งขวาทำนายว่าจะถูกต่างเพศหลอกลวง
27.เขม่นที่หน้าแข็งซ้ายทำนายว่าจะถูกเพศเดียวกันหลอกลวง
28.เขม่นแขนขวาทำนายว่าจะได้ลาภจากการเดินทาง
29.เขม่นแขนซ้ายทำนายว่าจะได้รับข่าวดี
30.เขม่นศอกขวาทำนายว่าญาติพี่น้องจะมาเยี่ยม
31.เขม่นศอกซ้ายทำนายว่าจะมีคนรักที่ถูกอกถูกใจ
32.เขม่นมือขวาทำนายว่าจะได้หยิบเงินทองรางวัล
33.เขม่นมือซ้ายทำนายว่าจะมีเกียรติยศชื่อเสียง
34.เขม่นหลังฝ่ามือขวาทำนายว่าจะมีคนมาติดต่อเรื่องการงาน
35.เขม่นหลังฝ่ามือซ้ายทำนายว่าจะได้รับจดหมายจากต่างเพศ
36.เขม่นหัวคิ้วขวาทำนายว่าจะถูกเพื่อนฝูงหักหลัง
37.เขม่นหัวคิ้วซ้ายทำนายว่าจะมีคนรักบ่นถามถึง
38.เขม่นหางตาขวาทำนายว่าจะได้รับเงินทองมีโชคลาภ
39.เขม่นหางตาซ้ายทำนายว่าจะไม่สบายใจ ญาติมิตรจะเจ็บป่วย
40.เขม่นหน้าผากทำนายว่าจะเสียของรักของหวงแหน
41.เขม่นที่ต้นคอทำนายว่าจะประสบอุบัติเหตุ
42.เขม่นที่หัวนมข้างขวาทำนายว่าจะมีลาภจากต่างเพศ
43.เขม่นที่หัวนมข้างซ้ายทำนายว่าจะได้เดินทางไกล
44.เขม่นที่นิ้วชี้ทำนายว่าจะเกิดความขึ้นโรงศาล
45.เขม่นที่นิ้วกลางทำนายว่าจะมีคนมาขอให้เป็นสักขีพยาน
46.เขม่นที่นิ้วนางทำนายว่าจะได้รับข่าวดีจากต่างเพศ
47.เขม่นนิ้วก้อยทำนายว่าจะมีคนดูหมิ่นเหยียดหยาบเกียรติ
48.เขม่นที่นิ้วหัวแม่มือทำนายว่าจะมีคนมาขอปรึกษา เป็นประธาน
49.เขม่นเข่าขวาทำนายว่าจะมีการเดินทางไกล
50.เขม่นเข่าซ้ายทำนายว่าจะมีปากเสียงกับคู่ครอง
51.เขม่นเท้าขวาทำนายว่าจะมีโชคลาภลอย
52.เขม่นเท้าซ้ายทำนายว่าจะถูกต่างเพศเหยียดหยามเกียรติ
53.เขม่นที่ตะโพกขวาทำนายว่าจะมีโชคกับเพศตรงข้าม
54.เขม่นที่ตะโพกซ้ายทำนายว่าจะมีคู่ครอง แต่งงาน
55.เขม่นฐานหัวนมขวาทำนายว่าจะได้รับข่าวจากคนรัก
56.เขม่นฐานหัวนมซ้ายทำนายว่าคนรักจะคิดถึงมาก
57.เขม่นที่ข้อมือขวาทำนายว่าจะเกิดทะเลาะวิวาท
58.เขม่นที่ข้อมือซ้ายทำนายว่าจะได้พบคนรักมาเยี่ยม
59.เขม่นที่ไหล่ซ้ายทำนายว่าจะมีความเดือดเนื้อร้อนใจ
60.เขม่นที่ไหล่ขวาทำนายว่าจะเสียเงินทองของรัก
61.เขม่นที่ปลายเท้าขวาทำนายว่าพี่น้องจะคิดถึงกัน
62.เขม่นที่ปลายเท้าซ้ายทำนายว่าจะมีการเดินทางไกล
63.เขม่นที่แก้มขวาทำนายว่าจะได้ลาภจากคนรัก
64.เขม่นที่แก้มซ้ายทำนายว่าจะมีความสุขกับคนรัก
65.เขม่นที่คางทำนายว่าจะประสบความยุ่งยากกับครอบครัว
ที่มา/อ้างอิง/ผู้เขียน : ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นเผยแพร่แก่สาธารณะเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา/วิทยาทานเท่านั้น

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ทำนายลักษณะหน้าผาก

ทำนายลักษณะหน้าผาก
 
 
หน้าผาก คือ บริเวณเหนือคิ้วขึ้นไปถึงไรริมผมส่วนกว้าง นับระหว่างปลายคิ้วทั้งสองข้างขึ้นไป

1.ผู้ใดหน้าผากกว้างไรผมเสมอกัน หน้าผากสูง ท่านว่าท่านผู้นั้นแม้จะเกิดในตระกูลต่ำ แต่มีบุญวาสนาจะได้เป็นพระยามหาอำมาตย์แล

2.ถ้าผู้ใดหน้าผากกว้าง ไรผมเป็นง่ามดูแต่พองาม ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีปัญญา สติความนึกคิดรอบคอบเฉลียวฉลาดยิ่งนัก

3.ผู้ใดคิ้วทั้งคู่ดกดำและแข็งมาก ท่านว่าผู้นั้นอาภัพ แม้เกิดในสกุลสูงก็ผลาญสกุลมิดีเลย

4.ผู้ใดมีเง่าจมูกหักปลายจมูกโด่ง ผู้นั้นใจคอเหลาะแหละไม่แน่นอน เป็นผู้นำคนไม่ได้

5.ผู้ใดสันจมูกเสมอกัน มีปลายจมูกโด่งรูจมูกพอเหมาะพอควร ท่านว่าจมูกสิงห์ ผู้นั้นมีอำนาจ เป็นเจ้าคนนายคน แม้ไม่ทำราชการก็ต้องเป็นผู้มีบุญอำนาจวาสนา ไม่ทุกข์ร้อนใจเลย

6.ผู้ใดยังหนุ่มสาวแต่ใบหน้าบิดเบี้ยว หรือมีแก้มตอบ โหนกแก้มทั้งสองข้างโปนออกมา ท่านว่าผู้นั้นขี้โรค มีความเดือดร้อนใจเสมอ แม้จะมีเงินทองก็หาความสุขมิได้

7.ผู้ใดมีดวงหน้าเต็มอิ่มเอิบรูปไข่หน้าผากกว้างเสมอกัน ท่านผู้นั้นมีอำนาจวาสนาดังราชสีห์มักได้เป็นใหญ่ มีคนอุปถัมภ์ชุบเลี้ยง ไม่เดือดร้อนเลย

8.หญิงใดหน้าผากกว้างและคางเหลี่ยม แก้มทั้งสองอิ่มเอบ ท่านว่าผู้นั้นเป็นสตรีมีบุญจะได้เป็นนางพระยา มีทรัพย์สมบัติ ข้าบริวารมาก

9.หญิงใดหน้าผากกว้าง วัดจากคิ้วขึ้นไปเกิดกว่าฝ่ามือ และมีเส้นผมบางและห่างท่านว่าหญิงนั้นอาภัพขี้โรค ใจคอดุร้าย จิตใจไม่สมประกอบ มักเป็นจิตประสาทแล

10.ชายใดหน้าผากกว้าง แต่ไรผมเหนือคิ้วทั้งสองเป็นง่าม ท่านว่าหัวล้านง่ามถ่อ ถ้าไม่มากนัก เป็นคนมีสติปัญญา ไม่ร่ำรวย ไม่ยากจน พอมีพอกิน แต่จะได้เป็นครูบาอาจารย์ คนทั่วไปแล

11.ชายใดหัวล้านแง่เถิกล้อมวงกลม มีหย่อมผมอยู่ประปรายที่ระหว่างกลางคิ้วทั้งสอง ท่านว่าผู้นั้นมีอำนาจวาสนา ยศตำแหน่งสูง แต่ต้องเลี้ยงบริวารด้วยเงินหว่านมีแต่พระเดชไม่มีพระคุณ ท่านว่าผู้ชายผู้นั้นใหญ่โตก็กลัวระแวงศัตรูอยู่ตลอดเวลาแล

12.ชายผู้ใดหัวล้านเตียนโล่งเฉพาะด้านหน้า ไปมีผมดำด้านหลัง ท่านว่าชายผู้นั้นอาภัพ แต่มิตรสหายสนับสนุน ได้ดีเพราะคนอื่น ไม่มีหัวคิดริเริ่มของตัวเอง

13.ชายใดหน้าผากแคบ หัวคิ้วกับไรผมเกือบชิดกัน ท่านว่ามีปัญญาทึบคิดสั้นเห็นแก่ตัว รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ชอบเอาเปรียบคนแล

14.ชายใดหน้าผากแคบ ใบหน้าแหลมเอิบอิ่มแก้มยุ้ย คางแหลม ใต้คางมีเนื้อยุ้ย (คางสองชั้น) ท่านว่า ชายผู้นั้นกิเลสตัณหามาก ไม่รู้อิ่มในกามคุณชอบผิดลูกผิดเมียเขา เป็นคนมีหัวคิดริเริ่ม ดีแต่พูด ทำไม่เป็น แต่มีอำนาจมีทรัพย์สมบัติ ข้าบริวารมากแล

15.ชายใดหัวล้านและกระหม่อมเตียนโล่ง ท่านว่า เป็นคนเจ้าปัญญา ปากกับใจไม่ตรงกัน เลี้ยงตัวไม่รอด ได้ดีเพราะผู้อื่นแล

16.ชายใดหน้าผากกว้าง แต่คางแหลม ริมฝีปากเล็กมักเป็นคนแพ้ฟันคนอาภัพ ทางเพศหาความสุขมิได้ แม้จะมีเงินทองมาก

17.ชายใดหน้าผากกว้าง หัวล้านง่าม (ปากฉลามใบหน้าสี่เหลี่ยม) คิ้วพอดูงาม ท่านว่า สติปัญญาเลิศคนจะได้เป็นหัวหน้า สมณะชีพราหมณ์ ครูบาอาจารย์คนทั่วไปแล

18.ชายใดหน้าผากยื่นคิวโก่ง ตาลึก ขมับตอบ ชายผู้นั้นมักอาภัพหาความสุขมิได้ แม้จะมีเงินทองก็เดือดร้อนใจเสมอแล

19.ชายใดหน้าผากแคบ แก้มยุ้ย คางแบน ท่านว่า เป็นคนอาภัพ ไม่มีอำนาจวาสนา สติปัญญาน้อย เป็นหัวหน้าคนมิได้แล

20.ถ้าชายใดหน้าเสมอกัน หน้ากว้างพอสมควรเป็นคนมีบุญวาสนา เป็นเจ้าคนนายคนแล

21.ถ้าชายใดหน้าผากกว้าง ไรผมสูงขึ้นไป เป็นพ่อค้าวานิชดี มักร่ำรวยเงินทอง และข้าบริวารมากแล

22.ถ้าชายใดหน้าผากใหญ่ แต่แคบแหลม ผู้นั้นมักมีทุกข์มาก

24.ชายใดหน้าผากบวม จมูกแบน จะเข็ญใจแล

25.ชาย-หญิงใด มีหน้าผากรอยย่น ริ้วรอยหลาย ๆ เส้นขวางไปตามคิ้ว ท่านว่า เป็นคนเจ้าทุกข์ มีทรัพย์สมบัติก็ทุกข์ มักคิดฆ่าตัวตายโดยไม่มีเหตุผลแล

26.ชาย-หญิงใด ระหว่างคิ้วมีรอยย่นเห็นได้ชัดมักเป็นคนแพ้สายตา มีสติปัญญาเลี้ยงตัวได้ แต่อาภัพพี่น้องน้อยแล

27.ชาย-หญิงใด มีใบหน้าเอิบอิ่ม หน้าผากกว้างพอสมควรแก้มเอิบอิ่ม ท่านว่า ชายหญิงนั้นเป็นคนเจ้าปัญญา จะบริบูรณ์ด้วยทรัพย์บริวารมาก แต่หาความสุขไม่ได้แล

28.ชาย-หญิงใด มีหน้าเล็ก หน้าผากแคบ ตัวอ้วนพีและเตี้ย ท่านว่าเป็นคนอาภัพพึ่งญาติพี่น้องมิได้ สติปัญญาน้อยและเข็ญ

29.ชาย-หญิงใด หน้าผากบวมผิดปกติ มีเนื้อมากแต่ตัวผอมเนื้อน้อยท่านว่า ชาย-หญิงนั้นขี้โรค สามวันดีสี่วันไข้ หาความสุขมิได้ แม้จะมีสมบัติมากก็ทุกข์ร้อนใจเสมอแล

ทำนายลักษณะอก

ทำนายลักษณะอก
 
 
อก ภาษาโหร หมายถึง เฮง บอกถึงลักษณะผู้ดี ไพร่ เศรษฐี – ยาจก

1.ผู้ใดชายหญิงมีอกกว้าง ไหล่ผาย เสมอกัน อกหนา อกยาว ผู้นั้น เป็นคนเจ้าปัญญา วาสนามาก สมบูรณ์ด้วยบริวาร ใจกล้าหาญ มีสุขมาก

2.ผู้ใดมีอกบาง อกแคบ อกแหลม เล็ก ผิวเนื้อหน้าอกดำ ผู้นั้นจิตใจเหลาะแหละ เจรจาต้องเอาร้อยหาร ใจน้อย โง่เขลาเอาแต่ใจตัว ทุกข์มาก

3.ผู้ใดมีอกกว้าง เนื้อที่ถันแต่งตึง สมบูรณ์ดีงาม ไม่ใหญ่ข้างเล็กข้าง ผู้นั้นเป็นคนเจ้าเสน่ห์ เข้าสังคมเก่ง มีคู่ครองมาก จะได้เป็นใหญ่ แต่เจ้าราคะ

4.ผู้ใดอกกว้าง อกหนาเสมอ ดังกระดานเต็มบริบูรณ์ ผู้นั้นมีทรัพย์มาก แม้ยากจนก็มีความสุข

5.ผู้ใดอกบางแคบ หน้าอกนูน ผู้นั้นมักเป็นวัณโรค หาเช้ากินค่ำ

6.ผู้ใดอกแคบ อกยาว หัวอกฟก ผู้นั้นอายุสั้นสติไม่ดีเลย

7.ผู้ใดอกเหมือนอกไก่ หลังแอ่นเหมือนเป็ด มีปัญญาความคิดน้อยมาก ชู้หลายคู่นอน เจ้าแห่งกามารมณ์แล

8.ผู้ใดอกสั้น ไหล่ห่อ พูดจาแหบแห้ง ผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ แม้มีอำนาจก็เพียงระยะสั้น หาคนเกรงขามยาก ขี้โรคแล

9.ผู้ใดอกสั้นกว่าหน้า ผู้นั้นยากจนเข็ญใจ หากินไม่พอเลี้ยงตัว

10.ผู้ใดอกต่ำ อกเป็นร่อง ผู้นั้นทำงานเก่ง ต้องใช้พละกำลัง มักเป็นกรรมกรมีทางเป็นเจ้านายคนยากแล

11.ผู้ใด อกมีขนดำ ผู้นั้นมีทรัพย์มาก แต่ทุกข์ใจแล

12.ผู้ใด อกไม่เท่ากัน ใหญ่ข้างเล็กข้าง ผู้นั้นเจ้าราคะ จริตมาก ชอบเล่นชู้ มักฆ่าตัวตายแล

13.ผู้ใดอกหยาบ ผู้นั้นเจ้าโทสะ โมโหร้าย ไร้ที่อยู่อาศัยแล

14.ผู้ใด อกแฟบ อกบาง หัวถันดำ ผู้นั้นใจน้อยเจ้าอารมณ์ มีปมด้อยมองใครในแง่ร้าย พอใจทางกามารมณ์นักแล

15.ผู้ใดอกตั้ง โคนถันพุ่งตรงเสมอกัน มักเป็นผู้ดีแปดสาแหรก ชอบเอาเปรียบคน ราคะสูง เข้าสังคมเก่ง มีเสน่ห์แรงสูง ถ้าเป็นชายชอบเป็นชู้กับเมียท่าน ถ้าเป็นหญิง แม้เป็นคุณนายก็ชอบเล่นชู้กับไพร่แล

ทำนายลักษณะสะดือ

ทำนายลักษณะสะดือ
 
 
สิทธิการิยะ สะดือ เกจิอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า เป็นแหล่งรวมเสน่ห์และอำนาจดึงดูดใจผู้อื่น

1.ผู้ใดสะดือกว้างลึก ผู้นั้นใจคอกล้าหาญมีวาสนามาก

2.ผู้ใดสะดือตื้นและแคบ ผู้นั้นเป็นคนมีปัญญาทึบ มักตกทุกข์เข็ญใจ

3.ผู้ใดสะดืออยู่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าสะเอว ผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ มีมานะทิฏฐิ ถือตัวมาก ทำสิ่งใดครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ทางสำเร็จเลย

4.ผู้ใดสะดือโตและกว้างมาก ผู้นั้นมักมากในกามารมณ์ มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม มักชอบเข้าสังคม

5.ผู้ใดสะดือเล็กปลายบิด ซ้ายขวา หรือสะดือจุ่น ผู้นั้นมีแต่พูดมาก พอใจใฝ่ต่ำ เชื่อคนง่าย มักถูกหลอกลวง

6.ผู้ใดสะดือเล็กปลายบิด ซ้ายขวา หรือสะดือจุ่น ผู้นั้นดีแต่พูดมา พอใจใฝ่ต่ำ เชื่อคนง่าย มักถูกหลอกลวง

7.ผู้ใดตรงสะดือมีไฝดำและเห็นได้ชัด ผู้นั้นมักมีโภคทรัพย์และบริวารมาก

8.ผู้ใดสะดือเล็ก - ต่ำ ไม่ตรง ปลายนะดือคว่ำลงไป ผู้นั้นมักอาภัพคู่ครอง จะเข็ญใจมิดี

9.ผู้ใดสะดือโปนโผล่ออกมา ผู้นั้นเห็นแก่กินมักมีโรคท้องเบียดเบียนเสมอ

10.ผู้ใดสะดือตื้นและคว่ำลง ผู้นั้นมักโฉดเขลาเบาปัญญาและมักเกียจคร้านเข็ญใจ แม้มีทรัพย์มรดกก็ไม่รักษาไม่คุ้มเลย

ทำนายลักษณะริมฝีปาก

ทำนายลักษณะริมฝีปาก
 
 
ตามตำราท่านว่า ริมฝีปาก เสมือนเจ้า ส่วนฟันเสมือนเสนาบดี ส่วนปากเสมือนประตูพระนคร และลิ้นเหมือนคนเข้าออกในพระนคร

1.ผู้ใดมีริมฝีปากตรง หนา ไม่บางไม่หนากว่ากัน ริมฝีปากแดงอยู่เสมอและริมฝีปากมีเส้นแสกมาก ทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างเสมอกัน ท่านว่าผู้นั้นมีจิตใจโอบอ้อมอารี มีสามี-ภรรยา ที่รักใคร่อยู่ด้วยกันตราบเท่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร มีความสุขยั่งยืนนานแล

2.ถ้าริมฝีปากทั้งสองหนา เบื้องบนคล้ายกระจับ มักเป็นคนมีวิชาความรู้ แต่ไม่สู้จะเป็นหัวหน้าคน

3.ถ้าริมฝีปากบาง ผู้นั้นกล้ากล่าวเท็จ พูดหาความจริงยาก

4.ถ้าริมฝีปากบนยาวหนา ผู้นั้นมักมีอายุยืน มีทรัพย์มาก

5.ถ้าริมฝีปากต่ำยาวและหนา ผู้นั้นเป็นคนมักได้มักกิน

6.ถ้าริมฝีปากแหลม มักจะเป็นคนยากจนเข็ญใจ

7.ถ้าริมฝีปากต่ำปลิ้นออกมา เป็นปากเลื่อย มักเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ถ้ามีผัวเมีย ก็ต้องอาศัยเพศตรงข้าม

8.ถ้าริมฝีปากแดงระรื่น เวลายิ้มมักมีลักยิ้ม ท่านว่ามีเสน่ห์ ถ้าเป็นชายเจ้าชู้ เป็นหญิงมักเป็นนางพญาแล

9.ถ้าริมฝีปากแดงโดยไม่ต้องตกแต่ง เป็นคนมีบุญ มีทรัพย์สมบัติมาก ข้าทาสบริวารจงรักภักดี

10.ถ้าริมฝีปากซ้ำ ดำเขียว มักเป็นคนขี้โรคแรงน้อย อายุสั้น

11.ถ้าริมฝีปากแดงอ่อน ๆ จะมีคู่ครองเป็นที่เชิดหน้าชูตระกูล

12.ถ้าริมฝีปากยาว ฟันสั้น ท่านว่า อายุยืนแต่แพ้ฟันแล

13.ถ้าริมฝีปากแตก ขอบดำตลอด เป็นคนเข็ญใจ มักกามารมณ์จัด

14.ถ้าริมฝีปากยื่น คางบุ๋ม เป็นคนมีเสน่ห์มักรักศิลปะต่าง ๆ
15.ถ้าริมฝีปากดำเสมอ ๆ มักเป็นคนขี้โรคตลอดชีวิต

16.ถ้าริมฝีปากปิดไม่มิดมองเห็นฟัน เป็นคนอาภัพ มักเป็นโรคผอมแห้ง

17.ถ้าริมฝีปากเป็นเส้นเหมือนดอกไม้ จะมีทรัพย์สมบัติมาก

18.ถ้าริมฝีปากเหมือนตับไก่ ผู้นั้นจะยากจนเข็ญใจ แม้จะมีทรัพย์

19.ถ้าริมฝีปากเหมือนถ้ำ เจรจาเชื่อได้ รักษาวาจาดี

20.ถ้าริมฝีปากแดงและบางไม่ได้แน่เลย

ทำนายลักษณะฟัน

ทำนายลักษณะฟัน
 
 
ฟัน โบราณท่านถือว่าเป็นใหญ่กว่าบรรดากระดูกทั้งปวง ถ้าใครเลือดดีฟันจะทนทาน มิโยกคลอน ตราบเท่าชีวิตจะหาไม่

1.สิทธิการิยะ ผู้ใดมีฟันเป็นเหลี่ยม ยาว โต เรียบเสมอกัน ไม่สูงไม่ต่ำชิดกันดี ท่านว่า ผู้นั้นอายุยืนปราศจากโรคาพาธทั้งปวงแล

2.ถ้าฟันแหลม ยาว ห่าง สั้นและคด บิดเบี้ยวมักจะอายุสั้น มีโรคโลหิตจางเป็นประจำ

3.ถ้าฟันใด ตรง รากฟันแน่น ไม่เบี้ยวผู้นั้นซื่อตรง เจรจาพาทีน่านับถือ มีใจศรัทธา เชื่อมั่นต่อศาสนาและวิชาชีพ

4.ถ้าฟันห่าง แตก สั้น บ้างแหลม บ้างแห้งและเหลือง แสดงว่าเจรจากลับกลอก เชื่อได้เพียงครึ่งเดียวแล

5.ถ้าฟันข้างบนด้านหน้าใด ชิดกันดีไม่นูนดันเหงือกออกมา เจรจานับถือได้ แต่ตัวองมักเป็นคนขี้ขลาด เชื่อโชคลางทางไสยศาสตร์

6.ถ้าฟันโตห่างมาก หรือฟันเล็กแหลม สั้นบ้างกลมบ้าง และไรฟันดูดั่งคราดชักหญ้า ผู้นั้นจะแพ้ฟันเข็ญใจ มักตายโดยอุปัทวเหตุ

7.อนึ่งผู้ใดมีเขี้ยว (คือฟันที่อยู่ระหว่างซี่ที่ 4) เบื้องบนมุมปากทั้งสองข้าง ปลายแหลมมาก ท่านว่าเป็นคนมีเล่ห์กโลบาย เอาตัวรอดได้ดี มักมีมารยาทมาก แต่มีสติปัญญาดี ความรู้เลี้ยงตัวได้

8.ถ้าเขี้ยวเสมอฟันทั่วไป ไม่แหลมมากนัก ผู้นั้นมีทรัพย์มาก มีวาสนาวิชาความรู้ แม้จะน้อยก็เลี้ยงตัวได้แล

9.ถ้าฟันแห้งมีสีเทา ไม่บริสุทธิ์ ห่างบ้าง มักจะเป็นคนยากจนเข็ญใจ โลเล เที่ยวเตร่ อยู่ไม่เป็นที่เป็นทางแล มักขอทานเขาเลี้ยงชีพแล

10.ถ้าฟันเหมือนฟันนาคราช จะมีลูกที่มีวาสนาสูงได้พึ่งดูแล

11.ถ้าฟันเหมือนฟันราชสีห์ มักจะได้เป็นหัวหน้าเจ้าคนนายคนแล

12.ถ้าฟันซ้อนแทรกออกมาตรงเขี้ยวข้างเดียว เป็นชาย ท่านว่า มีลูกเมียมากแต่มักไม่เลี้ยงดู เป็นคนเอาจริงเอาจัง แต่เห็นแก่ตัวมาก ถ้าเป็นหญิงเป็นคนมีเสน่ห์ แต่ได้คู่ครองที่ไม่ดีจะเดือดร้อนเสมอ ถ้ามีเขี้ยวซ้อนออกมาทั้งสองข้าง เป็นคนมีทุกข์ใจเสมอ

13.ฟันผู้ใดดูคล้ายฟันสุนัข เจรจาเชื่อยาก เห็นแก่กิน

14.ถ้าฟันขาว สะอาด บริสุทธิ์ มักเป็นคนซื่อตรงเรียนวิชาใด ๆ ก็ได้เป็นหัวหน้าคนทั่วไป

15.ถ้าฟันห่าง ขาวเหลือง แถมฟันโยกเย้ไปมา ท่านว่า อาภัพลูกและญาติพี่น้องแล

ทำนายลักษณะปาก

ทำนายลักษณะปาก
 
 
ปาก ท่านทำนายไว้ว่าเป็นทวารแห่งทรัพย์สินเงินทอง คนเราจะดีหรือชั่วเลี้ยงตัวได้ เพราะปาก ดังนั้น ปากคนเราจึงนับได้ว่าสำคัญมาก

1.ผู้ใดปากกว้าง ริมฝีปากคลุมฟัน แต่ริมฝีปากล่างเตื่อยยาวลงมามากท่านว่า เป็นคนอาภัพคุ้มข้าวของเงินทองไม่ได้แล

2.ผู้ใดปากไม่ตรงกัน ผู้นั้นพูดจาสามหาว พูดหาเรื่องร้ายให้ตนเอง มักมีสันดานเป็นโจรแล

3.ผู้ใดปลายริมฝีปากแหลมยื่นออกมา รูปปากเล็กท่านวา แพ้ฟันเป็นคนอาภัพคู่แล

4.ผู้ใดมีปากเป็นสี่เหลี่ยมรี มีขอบริมฝีปากเรียบ ๆ ท่านว่ามีทรัพย์มีบริวารมาก มักเป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย

5.ผู้ใดมีริมฝีปาก แม้ไม่ได้ตกแต่งก็แดงเรื่อ ๆ ท่านว่า เป็นคนมีเสน่ห์ ใครเห็นใครรักชื่นชม

6.ผู้ใดปากกว่าง คางแหลม เวลายิ้มคางยื่น ท่านว่า มักเป็นคนมีชื่อเสียง และมีกามารมณ์หนัก มักมีเสน่ห์แรง

7.ผู้ใดมีริมฝีปากบนยาวกว่าข้างล่าง ท่านว่า คบยาก ดีแต่ต่อหน้า ลับหลังนินทาไม่น่าคบแล

8.ผู้ใดมีริมฝีปากบนมีไฝ จะได้เป็นเจ้าใหญ่นายโต จะมีชื่อเสียงมักมากชู้หลาย ผัว – เมีย และมักจะเป็นคนทำอะไรมีคนสนับสนุน

9.ผู้ใดปากกว้างลิ้นโต พูดไม่ค่อยชัด มักจะได้เป็นใหญ่และเป็นครู อาจารย์อาภัพคู่ครองแล

10.ผู้ใดปากกว้าง ไหล่กว้าง คางแบน ถ้าเป็นชายอาภัพ ถ้าเป็นหญิงท่านว่า ไฟฟ้าแรงสูงนักแล

11.ผู้ใดริมฝีปากกับจมูกเป็นร่อง ท่านว่า เป็นคนมีวิชาความรู้ แต่เอาตัวไม่ค่อยรอด ดีแต่ทำได้ให้ผู้อื่น ตัวเองพอเสมอตัว

12.ผู้ใดริมฝีปากเวลาปกติแต่ละข้างงุ้มขึ้นไปคล้ายกระจับ ท่านว่า เป็นคนใจรวนเรชอบการพนันขันต่อหาเพื่อนฝูงที่ซื่อสัตย์ต่อตนไม่ค่อยได้

13.ผู้ใดมีร่องจมูกลงมาริมฝีปากดูพองาม แก้มทั้งสองอิ่มเสมอ ๆ กัน ท่านว่า เป็นคนใจบุญ มักมีอายุยืน ไม่ขี้โรค

14.ผู้ใดมีร่องจมูกลงมาริมฝีปาก หรือที่มีคางมีร่องด้วย ถ้าร่องตรง พูดจามีหลักฐานไว้ใจได้ ถ้าร่องคด มักพูดจามีแต่เท็จ วาจาหากจะเชื่อควรเอาร้อยหารไว้ก่อน

15.ผู้ใดมีปากไม่กว้างไม่ใหญ่ เสมอกัน ท่านว่า เป็นคนพูดจริงทำจริงเอาตัวรอด แม้จะตกอยู่ในภาวะคับขัน ก็มีปฏิภาณหาทาเอาตัวรอดได้เสมอ

16.อนึ่ง ผู้ใดมีร่องจมูกบนริมฝีปากแบนมาก มักจะตายด้วยอาวุธเขี้ยวงาแล

17.ถ้าร่องจมูกแบนแคบ ล่างก็แคบ แต่กลางกว้าง ผู้นั้นมีลูกหลานมาก แต่จะพึ่งลูกหลานมิได้เลย จะได้รับความลำบากเกี่ยวกับลูก ๆ หลาน ๆ

18.ผู้ใดมีร่องจมูกคดและสั้น มักจะมีอายุสั้น มักจะมีโรคพยาธิเบียดเบียนให้ต้องเสียเงินเสียทองเสมอ

19.ผู้ใดถ้าร่องจมูกเหมือนไม่ไผ่ผ่าสอง ผู้นั้นท่านว่ามีอำนาจวาสนาชะตาสูงส่ง จะมีบุตรบริวารมาก จะมีชื่อเสียงเกียรติยศปรากฏไปทั่วสารทิศ

20.ผู้ใด ถ้าร่องจมูกแตกสองข้างและกลางเป็นครีบ เป็นเส้นขึ้นมามากผิดปกติ ท่านว่า ผู้นั้นมักจะเข็ญใจ อาภัพทั้งญาติมิตรและสมบัติ บริวาร

21.ถ้าริมฝีปากงามดี ผู้นั้นมักเจรจาซื่อตรง พอใจในวิชาความรู้

22.ถ้าริมฝีปากทั้งสองบางและแบน มักปากมากโกหกมาก ไว้ใจไม่ค่อยได้เลยต่อหน้าอย่างหนึ่ง ลับหลังอย่างหนึ่ง ตั้งนินทา

23.ถ้าริมฝีปากบนยาวและหนา ผู้นั้นอายุยืนแล

24.ถ้าริมฝีปากล่างยาวและหนา ผู้นั้นมักเห็นแก่กิน ไม่มีความเอื้ออารีญาติมิตรมักเห็นแก่ตัว

25.ถ้าริมฝีปากเหมือนมังกร จะมีทรัพย์และได้เป็นหัวหน้าคน แม้เกิดในตระกูลต่ำก็มีฐานะร่ำรวย แต่หาความสบายไม่ค่ยได้

26.ถ้าริมฝีปากเหมือนแพะ มักจะยากจนเข็ญใจและอาจจะเป็นขอทานเมื่อวัยกลางคน

27.ถ้าริมฝีปากแดงระเรื่อสม่ำเสมอ เป็นคนมีเสน่ห์มีสมบัติมาก ไม่ค่อยอดอยากแล

28.ถ้าริมฝีปากเป็นสีชมพูเสมอ ๆ จะได้คู่ครองที่ถูกใจอยู่ครองกันไปตลอดจนอายุขัย

29.ถ้าริมฝีปากแตกและดำจัด มักเป็นคนเข็ญใจ ขี้โรคตลอดอายุ

30.ถ้าริมฝีปากกว้างไม่หุ้มฟัน ท่านว่า เป็นคนอาภัพ มีความเศร้าโศกใจตลอดเวลา หาความสุขไม่ได้เลย

31.ถ้าริมฝีปากเบี้ยวไม่ตรงกัน มักเจรจาบิดเบือน หาความจริงไม่ได้มักเป็นโรคประสาทหรือโรคจิต

32.ถ้าริมฝีปากเป็นแสกหรือเส้นมาก ผิดปกติ จะมีลูกไม่สู้ดี เรื่องคู่ครองมักเป็นหม้าย

33.ถ้าริมฝีปากไม่มีแสกเป็นเส้นเสียเลย จะอาภัพลูก คือไม่มีลูกเลยแม้จะมีคู่ครองก็ไม่มีความสุขที่แท้จริง เจ้าราคะมากชู้หลายคู่นอน

34.ผู้ใดริมฝีปากกว้าง คางใหญ่ ไหล่กรอม ท่านว่า เป็นคนเจ้าเสน่ห์เจรจาเท็จก็มีคนเชื่อถือ เจ้าแห่งกามารมณ์ แม้จะมีสมบัติมากก็หาความสุขทางเพศไม่สมบูรณ์

35.ผู้ใดเวลายิ้มมีลักยิ้มทั้งสองข้าง ท่านว่าเป็นคนเจ้าเสน่ห์มีสติปัญญาดีแต่ใจน้อยพึ่งตัวเองไม่ได้ ถ้มีคู่ครองที่ไม่เหมาะสมมักจะทุกข์ในการครองเรือน

ทำนายลักษณะใบหู

ทำนายลักษณะใบหู
 
 
1.ถ้าหูทั้งสองข้างอยู่ระดับเท่ากัน ไม่สูง ไม่ต่ำ ไม่โต ไม่เล็ก สมกับใบหน้า หูตรงช่องหูกว้าง และลึกจะได้เป็นขุนนาง อายุยืนแล

2.ถ้าหูยาวใบกว้าง ต่างหูยานมักเป็นสมณะชีพราหมณ์ ทรงศีลเป็นครูอาจารย์คนอื่นแล

3.ถ้าหูเล็กไม่รับใบหน้า แข็งกระด้าง ท่านว่าเข็ญใจ

4.ถ้าจับหูดูอ่อนนิ่มใบหูใหญ่ ขาว จะมีวาสนามีคนนับถือมากแล

5.ถ้าหูอยู่ระดับคิ้วหรือตา มักเป็นลูกผู้ดีมีวาสนา แต่หาชื่อเสียงไม่ได้มากนักแล

6.ถ้าหูอยู่ระดับต่ำกว่าคิ้วหรือตา และหย่อนยาน มักจะได้ยศถาบรรดาศักดิ์ เจ้าคนนายคนทั่วบ้านทั่วเมืองแล

7.ถ้าหูทั้งสองข้างใหญ่เล็กไม่เท่ากัน ท่านว่ามีปัญญามาก แต่มักเป็นคนหวงความรู้ มักเก็บตัวไม่สู้สมาคมกับเพื่อนฝูงเลย

8.ถ้าหากหูกลมพอดีกับใบหน้า ท่านว่า มีทรัพย์มากนักแล

9.ถ้าหูแหลมทั้งข้างบน ข้างล่าง ใบหูเรียว ๆ ท่านว่า ใจร้ายนักแล

10.ถ้าหูคล้ายหูหนูตอบไปข้างหน้า ใบหูเรียว ๆ ท่านว่า ใจร้ายนักแล

11.หูของผู้ใดมีหูแข็งกระด้าง มักเป็นคนหัวดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง ถือมติตัวเป็นใหญ่ แม้จะได้เป็นเจ้านายคนก็มีแต่คนรังเกียจแล

12.หูของผู้ใดมีใบหูอ่อนนิ่ม ขาวสะอาด ไม่มีฝ้าไฝ ท่านว่า เป็นคนว่านอนสอนง่าย ถือมติส่วนรวม เป็นที่รัก เคารพของคนทั่วไป มักได้เป็นหัวหน้าคนทั้งปวงแล

ทำนายลักษณะไหล่

ทำนายลักษณะไหล่
 
 
ไหล่ เกจิอาจารย์ ท่านกล่าวไว้ว่า เป็นสถานเชิดชูเกียรติยศชื่อเสียง

1.สิทธิการิยะ ผู้ใดมีไหล่ทั้งสองข้างกว้างหนา และเสมอกัน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนรักงาน รักหน้าที่ และมักเป็นใหญ่กว่าใคร ๆ แล

2.ผู้ใดไหล่ซ้ายสูงกว่าไหล่ขวา ท่านว่าพูดจาไม่ค่อยจริงจัง แต่ค้าขายดีนักแล

3.ผู้ใดไหล่ขวาสูงกว่าไหล่ซ้าย ผู้นั้นหาเงินทองรักษาไม่คุ้มแม้มีทรัพย์มรดกก็มักถูกหลอกลวงไปกันหมดแล

4.ผู้ใดไหล่ทั้งสองกว้าง คอตั้งตรง ศีรษะเชิดตรง เป็นคนเจ้าเสน่ห์ มีคนยำเกรง มักเป็นเจ้าคนนายคนแล

5.ผู้ใดไหล่กว้างแต่หัวไหล่เชิดขึ้น ตรงคอหลุบลง ท่านว่าเป็นคนขี้โรค มีปมด้อย เข้าสังคมไม่เป็น มักเป็นคนกรรมกรแล

6.ผู้ใดไหล่งุ้มโหนกคอสูง เป็นคนเจ้าอารมณ์ พูดสิ่งใดทำสิ่งใด มักเอาแต่ใจตนเอง

7.ผู้ใดไหล่ลู่ดูคล้ายกับคนหนาว ผู้นั้นมักเป็นคนอนาถาหาพึ่งมิได้ แม้จะมีทรัพย์ มีบริวาร ภายแก่ต้องหาเลี้ยงตัวเองแล

8.ผู้ใดไหล่บางเป็นเส้นเหมือนแผงคอม้า ผู้นั้นเป็นคนจับจด ทำอะไรได้หน้าลืมหลัง ไม่รักษาวาจาสัตย์ มักชอบทุจริตต่อหน้าที่แล

9.ผู้ใดไหล่เอนไปข้างหลัง หน้าอกนูนไปข้างหน้า มักเป็นคนมีทรัพย์ ใจคอกว้างขวาง ชอบเป็นคนเจ้าสำราญแล

10.ผู้ใดไหล่งุ้มไปข้างหลัง หลังโกง ผู้นั้นเป็นคนยากจนเข็ญใจ มักชอบทำอะไรผิดกฎหมาย พูดจาเชื่อไม่ได้ เอาเปรียบคนอื่นเสมอแล

ทำนายลักษณะบั้นเอว

ทำนายลักษณะบั้นเอว
 
 
1.ผู้ใดมีบั้นเอวกับท้องเสมอกัน ผู้นั้นเห็นแก่กิน หาเพื่อนฝูงยาก

2.ผู้นั้นเอวเล็ก อกนูน ตะโพกผาย ผู้นั้นมีเสน่ห์ มักมากทางกามคุณ มากชู้ หลายคู่ครอง มีทรัพย์มากแต่ไม่มีความสุขทางเพศ

3.ผู้ใดหนังบั้นเอวเหี่ยวแห้งเป็นบั้งเนื้อมาก ผู้นั้นพอใจทางสังคมไม่คิดเสียดายเนื้อตัว ชอบสนุก มีความรู้สึกทางเพศมาก
4.ผู้ใดบั้นเอวตรงและแข็งเหลี่ยม ผู้นั้นมีวาสนาสูง

5.ผู้ใดบั้นเอวเป็นเหลี่ยมท้องยื่น ผู้นั้นใจคอโอบอ้อมอารี

6.ผู้ใดบั้นเอวงอคดซ้ายหรือคดขวา ผู้นั้นมักเป็นโรคไต มักเข็ญใจ

7.ผู้ใดเอวเล็กคอดกิ่ว อกโต ตะโพกผาย ผู้นั้นชอบมายาการมักมากในทางชู้สาว ไม่เลือกคู่เขาของใคร พอใจในกามารมณ์จัด

8.ผู้ใดบั้นเอวเล็กตะโพกใหญ่ เมื่อน้อยเข็ญใจ เมื่อใหญ่มีทรัพย์สมบัติมาก มีเสน่ห์เข้าสังคมได้ดี

9.ผู้ใดบั้นเอวใหญ่ตะโพกลีบเล็ก ผู้นั้นเมื่อน้อยดี เมื่อใหญ่จะตกทุกข์ได้ยาก หาที่พึ่งมิได้

10.ผู้มีมีบั้นเอว – อก – ตะโพก ขนาดเท่ากัน ผู้นั้นมักอาภัพเข็ญใจ หาคู่ครองที่รักจริงยาก จะลำบากการทำมาหากินแล

ทำนายลักษณะท้อง

ทำนายลักษณะท้อง
 
 
1.ผู้ใดมีท้องกลม – ยาว หน้าท้องกลมเสมอกัน ผู้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาคิดอ่านใด ๆ มักพิสดารกว้างขวาง ผิดคนทั้งมวล

2.ผู้ใดผิวท้องขาว และดูแดงระเรื่อ เนื้อนิ่มสะดือลึก ผู้นั้นเป็นคนมีทรัพย์ มีปัญญาฉลาดรู้จกเอาตัวรอด

3.ผู้ใดมีท้องแบน มีรอยขนวนวงกลม ผู้นั้นใจคอซื่อตรง มักได้เป็นที่พึ่งของคนอื่น

4.ผู้ใดท้องใหญ่ยื่นพลุ้ยเกินหน้าอก ผู้นั้นเป็นคนมีทรัพย์ แต่ตระหนี่หาบริวารมิได้

5.ผู้ใดมีผิวหน้าท้อง หน้าท้องแข็ง ผู้นั้นมีทรัพย์มาก

6.ผู้ใดท้องกิ่วเล็กหนังบาง ผู้นั้นเข็ญใจหาเลี้ยงชีพไม่พอกิน

7.ผู้ใดท้องกิ่ว หน้าอกเป็นร่องลึก ผู้นั้นโง่เขลา มักได้รับความลำบากในการทำมาหากิน

8.ผู้ใดท้องโตตะโพกเล็ก ผู้นั้นเป็นคนอาภัพหมดเสน่ห์

9.ผู้ใดท้องเล็กเอวกิ่ว ตะโพกผายออกข้าง ๆ ผู้นั้นมีเสน่ห์ ชอบมักมากทางมายา และหมกมุ่นในกามารมณ์

10.ผู้ใดมีขนหน้าท้องมาก ลุกลามไปถึงเบื้องล่าง ผู้นั้นเป็นคนเห็นแก่กินเอาเปรียบคนอื่น มักอาภัพเพื่อนฝูง

ทำนายลักษณะสะโพก

ทำนายลักษณะสะโพก
 
 
1.ผู้ใด (ชาย) สะโพกใหญ่ ผู้นั้นจะอาภัพเข็ญใจ

2.ผู้ใด (ชาย) สะโพกใหญ่ ผู้นั้น มีเสน่ห์ มักมากในกามารมณ์

3.ผู้ใด (ชาย-หญิง) สะโพกเล็กลีบหาเนื้อมิได้เลย ผู้นั้นเป็นคนพูดจาโกหกพกลม ราคะจัด มักถูกหลอกลวง กโลบายมาก แต่เอาตัวไม่รอด

4.ผู้ใด ร่างใหญ่ อกโต สะโพกลีบผู้นั้นอาภัพไร้เสน่ห์ มีปมด้อย

5.ผู้ใด สะโพกใหญ่ผาย ท้องแบนโต ผู้นั้นมีวาสนาสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติและบริวาร

6.ผู้ใด (หญิง) สะโพกผาย เอวเล็ก ไหล่กว้าง คางแหลม ผู้นั้นมีรสนิยมทางศิลปะมาก มีเสน่ห์เหลี่ยมจัดเห็นแก่ตัว มีสมบัติ แต่มีศัตรูปองร้ายมาก

7.ผู้ใด (ชาย-หญิง) สะโพกโต อกลีบ ขาเรียว ผู้นั้นเป็นคนหัวพนัน มักพูดจาโอหัง เล่ห์เหลี่ยมจัดเห็นแก่ตัว มีสมบัติ แต่มีศัตรูปองร้ายมาก

8.ผู้ใด สะโพกแหลม เนื้อที่ก้นย้อย เวลาเดินสะบัดไปสะบัดมา ผู้นั้นเป็นชายอาภัพ อับวาสนา เป็นหญิงมักมีเสน่ห์ หาคู่ครองง่าย แต่มีความสุขทางกามารมณ์ไม่ถึงอกถึงใจ

9.ผู้ใดผอม สะโพกใหญ่ ผู้นั้นเกียจคร้านอาภัพ

10.ผู้ใด อ้วน สะโพกเล็ก ผู้นั้นมักเย่อหยิ่งชอบพูดจาโอหัง คุยเขื่องอวดมั่งมี มีกโลบายมากมักอาภัพอับโชคแล 

ทำนายลักษณะจมูก

ทำนายลักษณะจมูก
 
 
1.ถ้าชาย หญิงใด มีจมูกสูง ยาวลาดพอสมควรและตรง ท่านว่ามีทรัพย์มาก แม้เกิดในตระกูลต่ำก็ได้เป็นขุนนางแล

2.ช่อง (รู) จมูก เปรียบเสมือนประตูคลังสมบัติ ถ้าช่องจมูกหนา ปลายจมูกสูง ท่านว่า เป็นจมูกสิงห์ มีอำนาจวาสนาดีแล

3.ถ้าจมูกต่ำ แบน ปลายจมูกแหลม และช่องจมูกบาง เป็นคนตระหนี่มัธยัสถ์ ไม่เอาพี่เอาน้อง

4.ถ้าเง่าจมูกตรง ตั้งจมูกหักเป็นคนรักษาทรัพย์ไม่ได้แม้เกิดในสกุลเศรษฐีก็ยากจน อาภัพพี่น้องแล

5.ถ้าสันจมูกเป็นร่อง รูจมูกใหญ่ผิดปกติ เป็นคนโหดร้าย เอาแต่ใจตนเองนิสัยเกเร มักเป็นคนอันธพาลแล

6.ถ้าจมูกเล็กผิดปกติ เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ทำคุณไม่ขึ้น ทำแต่ให้โทษ ควรเว้นให้ไกลจะดีกว่าแล

7.ถ้าจมูกยาวเกือบเท้าหน้าผาก เป็นเนินมาพอเหมาะพอควร รับใบหน้าท่านว่า เป็นคนมีบุญวาสนา มักเป็นเจ้าคนนายคนทั้งปวงแล

8.ถ้าดั้งจมูกต่ำ จมูกคดบิดเบี้ยว เป็นคนอายุสั้น และอาภัพมิตรสหาย มักทำอัตตวินิบาตกรรม

9.ถ้าจมูกแบนเสมอใบหน้า แถมตาเล็กข้างใหญ่ข้าง มักเป็นคนยากจนเข็ญใจ ไร้ญาติขาดมิตร นัยหนึ่งอายุสั้นแล

10.ถ้าจมูกเขิน ปลายจมูกแหงนขึ้นไป มองดูใบหน้าแลก้านรูจมูก ผู้นั้นเป็นคนอาภัพสามีภรรยา

11.ถ้าจมูกโต หนาและแข็ง จะมีทรัพย์และมีบริวารมาก

12.ถ้าจมูกเหมือนจมูกสิงโต จะมีปัญญาความคิดมาก มักจะเป็นหัวหน้าคนทั้งปวง

13.ถ้าจมูกเล็กแหลม จะยาวจนเข็ญใจ มีทรัพย์ก็รักษาไม่คุ้ม

14.ถ้าเง่าจมูกและระหว่างคิ้วมีกระดูกเสมอกันไม่เว้ามากนัก ผู้นั้นมักจะเป็นเจ้านายคนแต่อายุเยาว์วัย

15.ถ้าหน้าผากและจมูกและแก้มทั้งสอง และคางมีเนื้อเต็มเอิบอิ่ม เมื่อน้อย ไร้ทรัพย์แต่อายุ 30 ปี ไปจะร่ำรวยขนาดเศรษฐีแล

16.ถ้าจมูกโตและช่อง (รู) จมูกไม่เท่ากัน ท่านว่าเป็นคนใจง่าย ใจสับปลับได้ หน้าลืมหลัง ลืมบุญคุณคนง่ายแล

17.ถ้าแก้มตอบ หน้าผากแคบ คางสั้น แต่จมูกสูง ท่านว่าครอบครองทรัพย์ไม่คงนาน แม้ร่ำรวยก็จะยากจนเมื่อแก่

18.ถ้าจมูกสีเหลือง –แดง ท่านว่า หาเงินทองง่ายสุขกายสบายใจ

19.ถ้าจมูกดำหน้าขาว ท่านว่า มีข้าวของก็ไม่รู้จักใช้จ่าย ครองสมบัติมิได้แล

20.ถ้าจมูกโด่งมีปลายงุ้ม ท่านว่า เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่น่าคบแล

ทำนายลักษณะคิ้ว

ทำนายลักษณะคิ้ว
 
 
1.ผู้ใดคิ้วยาว – สูง นับขนคิ้วได้ หว่างคิ้วกว้าง ผู้นั้นมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่ไร้ทรัพย์

2.ผู้ใดคิ้วสั้นตรงไปไม่โค้งคร่อมตา ผู้นั้นมีหัวโกง มักมีศัตรูปองร้ายมาก มักเป็นอันธพาล ชอบหากินทางทุจริต

3.ผู้ใดคิ้วยาวกว่าตา ผู้นั้นมักมีโภคสมบัติมาก เกิดยากจนก็จะได้เป็นขุนนาง

4.ผู้ใดมีคิ้วสั้นไม่คร่อมตา ผู้นั้นมักเข็ญใจ อาภัพอับโชควาสนา

5.ผู้ใดขนคิ้วต่ำดำ ผู้นั้นใจซื่อตรง แต่มักโง่เขลา มักถูกหลอกลวง หัวคิดไม่ทันคน

6.ผู้ใดหัวคิ้วต่อกันทั้งสองข้าง ผู้นั้นอาภัพญาติพี่น้อง

7.ผู้ใดขนคิ้วย้อยปลายมาทางหัวคิ้ว ผู้นั้นมักใจร้าย ไม่รู้จักกตัญญูรู้คุณมักปองร้ายผู้อื่น

8.ผู้ใดคิ้วสูงจรดขอบชายผมหน้าผาก ผู้นั้นมีสติปัญญาปานกลาง ชอบทำอะไรเอาใจตัวเอง การตัดสินใจมักผิดพลาดเสมอ หัวดื้อ มักเอาความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่

9.ผู้ใดกระดูกคิ้วโปนเป็นโหนก ตาลึก ผู้นั้นมักใจคอดุร้าย อาภัพสมบัติ ไร้ญาติ ขาดมิตร เห็นแก่ตัว

10.ผู้ใดหัวคิ้วเสมอกัน ท่านว่า อาภัพแม่ ถ้าขนคิ้วเล็กยาว ท่านว่ามีญาติพี่น้องน้อย มักอาภัพในการทำมาหาเลี้ยงชีพ

11.ผู้ใดคิ้วสั้น ไม่ปิดตา มักไร้ญาติขาดมิตร ผู้นั้นหาที่พึ่งอาศัย ผู้อุปถัมภ์ค้ำชูลำบาก

12.ผู้ใดมีปลายคิ้วจรดขมับ ผู้นั้นมักชอบอาสาเจ้านาย ทำการงานไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย ว่าถึงทรัพย์สมบัติพัสถาน ท่านว่ามีพอประมาณแต่จะมีชื่อเสียงมีคนนับหน้าถือตาในวงสังคมทั่วไป

13.ผู้ใดมีขนคิ้วดก ผมบาง ล้านเถิก ผู้นั้นเป็นมีสติปัญญาดี มีความคิดความสามารถ แต่อาภัพคู่ครอง

14.ผู้ใดขนคิ้วดำดำ ผมดก ผู้นั้นมีความทุกข์ใจมากกว่ามีบุญหรือสุขกายแต่ทุกข์ใจมาก

15.ผู้ใดคิ้วสูงกว่าหู ผู้นั้นเป็นคนใจบุญ มีอำนาจวาสนา จะได้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง แต่บั้นปลายชีวิตจะไร้ที่อยู่ บริวารไม่ดี ถ้าคิ้วต่ำกว่าตา ผู้นั้นอาภัพปัญญา จะยากจนเข็ญใจ

ทำนายลักษณะคอ

ทำนายลักษณะคอ
 
 
1.ผู้ใดอ้วนท้วนมาก แต่คอสั้น ผู้นั้นมักมีโรคภัยภายในมิสู้จะดีเลย

2.ผู้ใดอ้วนพองาม คอตรงระหงไม่เอนเอียง ผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์ มักเป็นคนยิ้มง่าย ตาเจ้าชู้ มักเป็นคนได้รับเกียรติ ชื่อเสียงในวงสังคมแล

3.ผู้ใดอ้วนและคอยาว หรือผู้ใดผอม แต่คอสั้นผู้นั้นเป็นคนอาภัพ มีปมด้อยมักเหนียมอาย เข้าสังคมหมดเสน่ห์ มักเข็ญใจ และอายุสั้นแล

4.ผู้ใดคอตก คอยาว ดั่งคอเป็ดคอป่าน หรือคอสั้นเล็ก ไม่ดี มักยากจนเข็ญใจ หาที่พึ่งแก่ตัวเองยากนัก

5.ผู้ใดคอสั้น หรือคอยาว แข็ง หันเหลียวซ้าย ขวา ไม่คล่องว่องไว ผู้นั้นเป็นคนมีสมองสติปัญญาทราม มักมีอายุสั้น

6.ผู้ใดคอสั้น เป็นสี่เหลี่ยมตั้งตรง ผู้นั้นเป็นคนมีวาสนา มีทรัพย์มาก

7.ผู้ใดหลังคอแบนเบื้องหน้ามีลูกกระเดือกโปนมักเป็นนักพูด นักปาฐกดีนักแล

8.ผู้ใดคอเบื้องหลังมีชายผมจรดไหล่ ผู้นั้นเป็นคนอาภัพ มิดีเลย


9.ผู้ใดคอเบื้องหลังเป็นบั้ง มีเนื้อมาก ผู้นั้นมีทรัพย์ อายุยืนดีแล

10.ผู้ใดคอไม่ตั้งตรง มีปานดำเบื้องหลัง หรือตกกระขาว ผู้นั้นใจไม่ซื่อตรง ชอบทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง มีมานะทิฏฐิ ไม่ดี

11.ผู้ใดคอระหง ตั้งตรงไม่เอนเอียง ผู้นั้นใจคอซื่อตรง มีศีลธรรม มักมีทรัพย์บริวารมาก

12.ผู้ใดคอเหมือนงู ผู้นั้นใจดุร้าย พูดอย่างทำอย่างไม่น่าคบ

13.ผู้ใดคองาม ใบหน้างามผู้นั้นมักเป็นขุนนาง มีสมบัติมาก

14.ผู้ใดคอเอียงซ้ายหรือขวา ตาขวาง ผู้นั้นเป็นคนเข็ญใจ มักเป็นขอทานแล

15.ผู้ใดคอสั้นติดไหล่ หรือคอยาวเกือบคืบ เวลาเดินศีรษะเอียงไปมา ผู้นั้นเป็นคนเจ้าปัญญา หัวริเริ่มดี แต่อาภัพสมบัติบริวารแล

ทำนายลักษณะการเดิน

ทำนายลักษณะการเดิน
 
 
1.ผู้ใดเดินเยื้องกรายไม่แกว่งแขนเลย ท่านว่า เป็นคนคิดมาก มักจะมีจิตใจไม่ปรกติ ระบบสมองไม่สมบูรณ์

2.ผู้ใดเดินก้ามหน้า มีศีรษะก้มผิดปกติ ท่านว่าเป็นคนมีปมด้อย ใจร้อน มองคนอื่นเห็นเป็นศัตรูไปหมด ทำอะไรได้ทุกอย่างแต่ไม้ดีเท่าที่ควร

3.ผู้ใดเวลาเดินชูศีรษะตรง มีใบหน้ายิ้มแย้ม ท่านว่า เป็นคนมีอำนาจ มักเป็นที่เคารพนับถือของคนอื่น

4.ผู้ใดเวลาเดินมักเหลียวซ้ายแลขวาเสมอ ๆ ท่านว่า เป็นคนมีวิตกสงสัย เป็นเจ้าเรือน ทำอะไรแม้จะเป็นของง่าย ๆ ก็สงสัยไปหมด มักระแวงตัวเองว่า จะทำอะไรผิดปกติ

5.ผู้ใดเวลาเดินเยื้องกราย มือซ้ายขวาแกว่งสลับกันพอดีงาม ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์ รักเพื่อนฝูง ใจนักเลง ทำอะไรได้ดีทุกอย่าง แต่มักจะเสียรู้คนอื่น เพราะความซื่อของตน

6.ผู้ใดเวลาเดินมีใบหน้าอิ่มเอิบ ยิ้มแต่พอควร ไม่นอกหน้า ท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนทั่วไป มีจิตใจร่าเริงเบิกบาน ปราศจากทุกข์กังวลใจต่าง ๆ ดีมากแล

7.ผู้ใดเวลาเดินก้าวขาจ้ำเอา ๆ เดินเร็วผิดปกติ ไม่ว่าจะมีงานรีบร้อนหรือไม่ก็ตาม ผู้นั้นเป็นคนโมโหร้าย แต่หายเร็ว จิตใจคิดอะไรแล่นได้เร็ว แต่ทำงานไม่เรียบร้อย เหมือนคนอื่น

8.ผู้ใดเวลาเดิน เดินเอื่อยเฉื่อยไม่รีบร้อน ไปไหนเชื่องช้าไม่ทันเพื่อนฝูง ผู้นั้นเป็นคนอารมณ์เย็นแต่ใจกล้า สนับสนุนเพื่อนร่วมงาน แต่ใช้ความคิดมากสักหน่อย

9.ผู้ใดเดินไม่มีการเยื้องกรายตรงทาง เดินไปขวามาซ้าย เอาแต่ใจตัวเอง แสดงว่า เป็นคนเจ้าปัญหา สงสัยทุกอย่างมีความคิดเห็นส่วนตัวมาก แต่ใจนักเลง ชอบเป็นคนเจ้าสำราญ

10.ผู้ใดเวลาเดินมีใบหน้าบึ้งตึง ไม่ยิ้มแย้มเลย ท่านว่า เป็นคนเห็นแก่ตัวแต่ทำงานดี ใจซื่อตรงไม่เล่นพรรคเล่นพวก

ทิศตามหลักโบราณ

๑. ทิศอุดร
๒. ทิศอุดรภาคบูรพา
๓. ทิศอุตรีสาน
๔. ทิศอีสานภาคอุดร
๕. ทิศอีสาน
๖. ทิศอีสานภาคบูรพา
๗. ทิศบุริมีสาน
๘. ทิศบูรพาภาคอุดร
๙. ทิศบูรพา
๑๐. ทิศบูรพาภาคทักษิณ
๑๑. ทิศบูริมาคเนย์
๑๒. ทิศอาคเนย์ภาคบูรพา
๑๓. ทิศอาคเนย์
๑๔. ทิศอาคเนย์ภาคทักษิณ
๑๕. ทิศทักษิณาคเนย์
๑๖. ทิศทักษิณภาคบูรพา
๑๗. ทิศทักษิณ
๑๘. ทิศทักษิณภาคประจิม
๑๙. ทิศทักษิณเนรดี
๒๐. ทิศหรดีภาคทักษิณ
๒๑. ทิศหรดี
๒๒. ทิศหรดีภาคประจิม
๒๓. ทิศปัจฉิมเนรดี
๒๔. ทิศประจิมภาคทักษิณ
๒๕. ทิศประจิม
๒๖. ทิศประจิมภาคอุดร
๒๗. ทิศปัจฉิมพายัพ
๒๘. ทิศพายัพภาคประจิม
๒๙. ทิศพายัพ
๓๐. ทิศพายัพภาคอุดร
๓๑. ทิศอุดรพายัพ
๓๒. ทิศอุดรภาคประจิม
ที่มา/อ้างอิง/ผู้เขียน : พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นเผยแพร่แก่สาธารณะเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา/วิทยาทานเท่านั้น

หมอดูลายท้า

ตำราดูลักษณะเท้า
เท้า เป็นอวัยวะที่สำคัญมาก ใครไม่มีเท้าก็คงจะเดินไม่ได้ ทรงตัวไม่ได้ การดูดวงจากเท้าก็คล้ายกับการดูดวงจากมือหรือลายเพียงแต่จะเป็นอวัยวะคนละส่วนเท่านั้นเอง ตามตำราไทยโบราณเท้าสามารถบ่งบอกถึงบุคคลิก ลักษณะนิสัย ดวงชะตารวมไปถึงสุขภาพเลยทีเดียว ซึ่งมักใช้หลักคำพยากรณ์ ดังนี้
1. ชายหญิงใดมีเท้าเล็ก ผู้นั้นเป็นคนผู้ดีมีบุญวาสนา มักอยู่เย็นเป็นสุข สบายนักแล

2. ชายหญิงใดมีเท้าใหญ่ ผู้นั้นเป็นคนต้องทำงานหนัก มักง่ายใจร้อน มักเป็นทุกข์กายและใจ

3. ชายหญิงใดมีเท้าส่วนส่วน ไม่เล็กไม่ใหญ่ ผู้นั้นเป็นคนมีอำนาจ เกียรติยศชื่อเสียง

4. ชายหญิงใดมีเท้ากลมคล้ายกับบวม ผู้นั้นเป็นนักบวชดี จะมีเกียรติยศ ชื่อเสียง

5. ผู้ใดมีฝ่าเท้ากระโหย่ง อุ้มฝ่าเท้ากระโหย่ง ท่านว่าผู้นั้นเป็นนักบวชดี จะมีเกียรติยศ ชื่อเสียง

6. ผู้ใดมีฝ่าเท้าตรงปลายส้นหนา เวลาเดินมักเอาส้นเท้าลงก่อน และชอบเดินดัง ท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าโทสะ โกรธง่าย ใจน้อย ไม่สู้จะมีเหตุผล เป็นคนมักมากในกามคุณด้วย

7. ผู้ใดมีฝ่าเท้าหนา หยาบกร้านทั่วทั้งฝ่าเท้า ท่านว่าผู้นั้นเป็นมักตกทุกข์ได้ยาก ลำบากกาย ต้องทำงานหนัก หาความสบายมิค่อยได้เลย

8. ผู้ใดมีฝ่าเท้าอ่อนนุ่มตลอด และฝ่าเท้าไม่หนานักไม่บางเกินไปท่านว่า ผู้นั้นมักเป็นคนหลง ๆ ลืม ๆ มีทิฐิมานะ เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ไม่มีเหตุผล ทำงานไม่เป็นระเบียบเลย

9. ผู้ใดมีฝ่าเท้าตรงปลายนิ้วจิกลง ปลายนิ้วแต่ละนิ้วหนาบิดไปทางข้างท่านว่า ผู้นั้นมักเป็นคนหลง ๆ ลืม ๆ มีทิฐิมานะ เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ไม่มีเหตุผล ทำงานไม่เป็น ระเบียบเลย

10. ผู้ใดมีฝ่าเท้า หนาและหยาบมาก มีรอยแตกทั่วฝ่าเท้า ท่านว่า ผู้นั้นจะตกทุกข์ได้ยากในการทำมาหาเลี้ยงชีพตัวเอง เกิดที่นี่มักไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่อื่น

11. ผู้ใดมีฝ่าเท้าราบเรียบเป็นแผ่นคล้ายตีนเป็ดท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนพูดน้อย มักเก็บความรู้สึกไว้ในใจนาน หากเกิดน้อยใจมาก ๆ มักระบายออกมารุนแรง

12. ผู้ใดมีฝ่าเท้าคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนเจ้าอารมณ์ทำงานดีแต่มิสู้จะเรียบร้อย อาสาเจ้านายดี รักอาภัพคู่ครองแล

13. ผู้ใดมีฝ่าเท้าคล้ายสี่เหลี่ยมผืนว่า ท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนมีบุญวาสนา ชะตาสูงส่ง จะได้เป็นใหญ่เป็นโต สูงด้วยยศ มากด้วยทรัพย์สินเงินทอง

14. ผู้ใดมีฝ่าเท้า สี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ปลายเท้ามีนิ้วแบบบานปลายออกไปมาก ท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนมีเสน่ห์ดีกับเพศตรงข้าม จะมีคู่ครองหลายคนมักไม่ได้เลี้ยงดูกัน

15. ผู้ใดมีฝ่าเท้า คล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ส้นเท้าหนา ปลายนิ้วเท้าจิกลง ท่านว่าผู้นั้นมีความรู้สึกทางเพศรุนแรง มักมากในกามารมณ์ มักประพฤติผิดศีลธรรมทางประเวณี กับลูกผัว - เมียคนอื่น

16. ผู้ใดมีฝ่าเท้าตรงเส้นเท้ากว้ากว่าปลายนิ้วเทา ท่านว่า ผู้นั้นเป็นคนอาภัพญาติมิตร มักโลภมากอยากได้ของคนอื่นในทางผิดศีลธรรม

17. ผู้ใดมีนิ้วเท้ายาวลดหลั่นกันเพียงเล็กน้อย ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาดี มักเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิตเป็นที่ปรึกษาของคนอื่นทั่วไป

18. ผู้ใดมีนิ้วเท้า ยาวสม่ำเสมอกัน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีบุญวาสนามักมั่งมีศรีสุข เป็นชายจะมีภรรยาดี เป็นหญิงจะมีสามีมีอำนาจวาสนาสูง เป็นที่เกรงขามของคนทั่วไป

19. ผู้ใดมีนิ้วเท้า ยาว – สั้นสลับกัน มองดูจนน่าเกลียด ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนอาภัพ ทำมาหากินมักไม่พอเลี้ยงตัว อาสาคนอื่นดี เป็นคนรับใช้เขาดี ทำงานของตัวเองไม่ก้าวหน้า

20. ผู้ใดมีนิ้วเท้า หัวแม่เทาสันกว่านิ้วเท้าชี้เพียงเล็กน้อย นิ้วนอกนั้นยาวสั้นลดหลั่นกันพองาม ท่านว่าผู้นั้นมีสติปัญญาปานกลาง มักทำราชการงานหลวงดีมีความคิดริเริ่มในการงาน อาสาเจ้านายดี

21. ผู้ใดมีนิ้วหัวแม่เท้าตรงปลายโตมาก และบิดออกไปข้าง ๆ มาก และนิ้วก้อยบิดออกไปข้างนอกมากเช่นกัน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนอาภัพมักต้องตกระกำลำบาก ทำงานพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง หาเก็บหอมรอมริบจริง ๆ ยากมากต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ

22. ผู้ใดมีนิ้วเท้า ตรงปลายบิดเข้าหากันจนงุ้มทั้ง 5นิ้ว ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีจิตใจอกุศล มักอาภัพ ชอบหากินในทางทุจริต ผิดศีลธรรม ขี้โรค มีพยาธิเบียดเบียนเสมอ หาความสุขได้ยาก

23. ผู้ใดมีฝ่าเท้า นุ่ม พื้นฝ่าเท้ามีเส้นละเอียด ชัดเจนดี ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีทรัพย์ก่อนตนเกิด จะได้รับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ จะได้คู่ที่ดีมีวาสนาสูงส่ง

24. ผู้ใดมีฝ่าเท้า ละเอียด อมเลือดอมฝาดตลอดเวลา มีเส้นละเอียดดุจใยบัว กลางฝ่าเท้า ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีอำนาจวาสนา มีบุญกุศล เป็นนักบวชที่ดี จะมีศิษยานุศิษย์มาก เป็นฆราวาสมักอาภัพอับโชค

25. ผู้ใด มีฝ่าเท้า เสมอกัน ไม่เว้าไม่แหว่ง มีเส้นขอดเป็นก้นหอยทั่วไป ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีสติปัญญาดีมาก มีปฏิภาณไหวพริบเท่าทันคน ทำอะไรมักเป็นเจ้าคนนายคน มีบริวารมาก ดีนักแล

26. ผู้ใดมีฝ่าเท้า หยาบ มีเส้นบนฝ่าเท้าลึกตรง ไม่ขาดวิ่น ท่านว่าผู้นั้นเป็นนักบริหารธุรกิจที่ดีเลิศ มักเดินทางไปต่างแดนเสมอ ๆ จะมีลาภยศกับชาวต่างชาติต่างภาษา

27. ผู้ใดมีฝ่าเท้า ยาบมีเส้นลึกสั้น ขาดเป็นช่วง ๆ ท่านว่าผู้นั้นมักมีโชคชะตาขึ้น ๆ ลง ๆ ใจร้อนรน ทำงานรวดเร็ว ชอบทดลอง เอาแต่ใจตนเอง แต่มีความรับผิดชอบดี

28. ผู้ใด มีฝ่าเท้าข้างหนึ่งเล็ก ข้างหนึ่งใหญ่ไม่เสมอกัน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีจิตใจกล้าบ้าบิ่นขวานผ่าซาก ใจนักเลง ไม่ค่อยมีความเห็นลงรอยกับใครง่าย ๆ

29. ผู้ใดมีฝ่าเท้าราบหรือเว้าเพียงเล็กน้อย มีเส้นลายคล้ายรูปสิงสาราสัตว์บนฝ่าเท้านั้น ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีอำนาจ มีข้าทาสบริวารมาก

30. ผู้ใดมีฝ่าเท้า คล้ายดอกบัว หรือกงจักร ท่านว่าผู้นั้นจะได้เป็นใหญ่ มีวาสนา ทำราชการมักก้าวหน้ากว่าเพื่อนฝูง ไปสารทิศใด ๆ มักมีคนชื่นชมให้เกียรติสรรเสริญ

31. ผู้ใดมีฝ่าเท้า ป้อม ๆ เส้นลายมากมายตัดกันพัลวัน ท่านว่าผู้นั้นมักเป็นโรคจิต ประสาทพิการ เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง อายุยืน และมักได้รับทรมาน

32. ผู้ใดมีฝ่าเท้าปลายเรียวเล็ก กลางแบนออก ส้นเท้าเรียวแหลม ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนทำงานได้หลายอย่าง เจ้าความคิดแต่มักมากในเรื่องเพศกิเลสหนาราคะจัดมาก

33. ผู้ใดส้นเท้าทู่พื้นหยาบกระด้าง ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนอาภัพอับโชค ไม่สู้จะมีวาสนากับเขา ต้องทำงานหนัก ใจคอมักคับแค้น ทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลา

34. ผู้ใดมีนิ้ว ก้อยเท้าบิดไปข้างนอกมาก ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนใจคอรวนเร มักนอกใจคนรัก หรือมักหลงคู่ครองสามีภรรยาคนอื่น มักชอบเล่นชู้กับสามี - ภรรยาท่านแล

35. ผู้ใดมีนิ้วหัวแม่เท้าเก ปลายโตและบิดออกไปข้าง ๆ มาก ท่านว่าผู้นั้นมักชอบอาสาคนอื่นดี แต่การงานตนเกียจคร้าน ต้องทำงานหนักลำบากกายในเรื่องหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ชอบให้คนยกยอปอปั้น

36. ผู้ใดมีอุ้มเท้ากระโหย่งมากจนส้นเท้ากับปลายส้นเท้างุ้ม ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนตกระกำลำบาก ยากไรที่พึงพำนักพักพิง หาเลี้ยงชีพด้วยความยากแค้นแสนทรมาน จะอาภัพคู่ครอง สูญเสียของรักของชอบใย

37. ผู้ใดมีฝ่าเท้า มีลายเส้นขมวดตรงกลางฝ่าเท้า หรือตรงส้นเท้าและเห็นได้ชัดเจนดี ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีบุญ จะเป็นที่รักใคร่พอใจของเพศตรงข้ามและผู้ใหญ่ทั่วไป มักจะมีคนคอยอุปถัมภ์ค้ำชู สบายดี

38. ผู้ใดมีฝ่าเท้ามีเส้นลวดลายคล้ายดวงดาวหรือเต่า ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนอารมณ์ดี มีวาทศิลป์ในการติดต่อ มักได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลทุกวงการ ทำงานอะไรก็ก้าวหน้า มีเกียรติยศชื่อเสียง

39. ผู้ใดเวลายืนมักเอียงฝ่าเท้าเข้า ถ้าเป็นฝ่าเท้าซ้าย ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ต้องตาถูกใจต่างเพศมาก

40. ผู้ใดเวลายืนมักเอียงฝ่าเท้าเข้า ถ้าเป็นฝ่าเท้าขวา ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้าทุกข์ มีอารมณ์ขุ่นมัวอยู่เสมอ คิดประสงค์อะไรมักไม่สู้ปลอดโปร่งใจนัก

41. ผู้ใดเวลาเดินมักเอาส้นเท้าลงก่อน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เจ้าอารมณ์มาก ใจรอน ทำอะไรมักไม่ค่อยเรียบร้อยนัก

42. ผู้ใดเวลาเดินมักเอาปลายเท้าลงก่อน คล้ายกับเดินเขย่ง ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนใจง่าย เชื่อคนง่ายไม่สู้จะมีเหตุผล มักถูกคนอื่นหลอกลวงให้หลงผิด เสียทรัพย์สินเงินทองโดยเปล่าประโยชน์

43. ผู้ใดเวลาเดิน ลงฝ่าเท้าค่อนข้างพร้อม ๆ กัน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนใจบุญสุนทาน มักชอบทำงานเพื่อสังคมโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน มักมีอายุยืน ไร้โรคาพยาธิ

44. ผู้ใดเวลาเดิน คล้ายเอาฝ่าเท้าไพล่ออกไปข้าง ๆ คือเดินคล้ายคนตีนเป็ด ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีอารมณ์ลึก ขบขันยาก เก็บความรู้สึกไว้นาน ๆ ชอบตรงไปตรงมา ไม่โกรธใครก่อนง่าย ๆ เมื่อไม่พอใจใครมักจำไว้นาน ๆ ทีเดียว

45. ผู้ใดเวลาเดิน มักขาโกงออกที่ตรงหัวเข่า ฝ่าเท้าหุบเข้า หรือที่เรียกว่า เดินแบบคนขาโขงขาโกง ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนอาภัพคู่ครอง มีเสน่ห์ในตัวเอง ทำให้ต่างเพศหลงใหลมาก แต่อยู่ด้วยกันไม่ยืดเลย

46. ผู้ใดเวลาเดิน คล้ายกับเดินลากส้นเท้า ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนใจลอย มักเกียจคร้าน ทำงานเอาแต่เล่น นิสัยมักง่าย ชอบเอาใจคนต่างเพศ

47. ผู้ใดเวลาเดิน ฝ่าเท้าจะป่ายปลายเท้าออกข้าง ๆ ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนเจ้ามดหมอความ มักมีเรื่องเดือดร้อนใจตัวเองเสมอ ๆ ไม่สู้จะถูกกับเพื่อนบ้านเรือนเคียง หาเลี้ยงชีพด้วยความคับแค้นใจ

48. ผู้ใดเวลาเดิน เอาเท้าขวาออกก่อน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีบุญ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด รู้เท่าทันคนอื่น ทำกิจการใด ๆ มักก้าวหน้า

49. ผู้ใดเวลาเดินเอาเท้าซ้ายออกก่อน ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนจับจดไม่รักการรักงาน มักชอบทำงานเอาหนา ให้เจ้านายเห็นหนา หรือเข้าไปเสนอหนาสักหน่อยเป็นดี

50. ผู้ใดมีเท้าบาง พื้นฝ่าเท้าราบเรียบ บนฝ่าเท้ามีเส้นละเอียด มีเส้นขมวดก้นหอยมากแห่ง เส้นลึกแลเห็นชัดเจนดี ท่านว่าผู้นั้นเป็นคนมีบุญญาธิการ มีอิทธิปาฏิหาริย์ในตัวเอง 

ตำราดูของหาย

ตำราดูของหาย
ตำราดูของหาย เป็นตำราโบราณที่คนเถ้าคนแก่มักใช้ทำนายสิ่งของที่สูญหาย โดยใช้วันที่หายในการพยากรณ์ ดังนี้
1. ของหายวันอาทิตย์ ให้หาทางทิศตะวันออก นอกบ้านแต่อยู่ในเขตบ้าน มักอยู่ในที่ลับมาก ยากลำบากกว่าจะหาเจอหรืออาจจะได้คืนยาก ตามหาจริงๆจะได้คืนในพลันใจ

2. ของหายวันจันทร์ ให้เสาะหาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ อยู่นอกเขตอาคารบ้านเรือน ต้องใช้เวลาหานาน แต่ภายหลังมักจะกลับคืนมาหรือมีคนมาแจ้งบอกข่าว

3. ของหายวันอังคาร ของนั้นมักอยู่ไกล้ประตูบ้าน ประตูเรือน ให้รีบหายังจักได้คืนอยู่ มักอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

4. ของหายวันพุธ ของนั้นมักอยู่ตามห้อง ห้องนอน ใต้เตียง ห้องน้ำ ห้องครัว ภายในบ้านไม่อยู่นอกบ้านต้องใช้เวลาหาสักพักจักได้คืนแน่นอน

5. ของหายวันพฤหัสบดี มีที่ใกล้ประตูบ้านประตูเรือนให้รีบหายังจักได้ไม่เสียแล

6. ของหายวันศุกร์ มักหายอยู่นอกบ้านในที่รกรุงรัง มักจะไม่ได้คืนเสีย

7. ของหายวันเสาร์ ของจะอยู่ในบ้านที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งถูกปิดบังตาอยู่ในที่มิดชิด ต้องหาหลายวัน จักได้คืนแน่นอน

ตำราทำนายหนูร้อง

ตำราทำนายหนูร้อง
ทำนายหนูร้องในลักษณะเสียงหรือเวลาต่างๆ ท่านทำนายว่า ดังนี้
1. ร้องระเริงอลเวงทั้งกลางวันกลางคืนเป็นเป็นลางบอกเหตุไม่ดีจะเข้ามาให้หม่อนหมอง

2. เสียงร้องจก ๆ สั้นๆ มักหมายถึงจะได้ลาภหรือมีข่าวดีตรงชอบจิตต้องประสงค์สมใจ

3. ร้องขิก ๆ เสียงแห้งหมายถึงบ้านนั้นใดให้ระวังเป็นลางไม่ดีคนรู้จัก ญาตมิตรมักมีภัย

4. ร้องจีด ๆ เสียงยาว มักหมายถึงข่าวดีในครอบครัว

5. ร้องเสียงสุด ๆ ขู่ดัง มักให้ระวังข่าวร้ายเป็นภัยแก่ครอบครัว 

ตำราทำนายเสียงจิ้งจกทักหรือคนจาม

ตำราทำนายเสียงจิ้งจกทักหรือคนจาม
เสียงจิ้งจกทักหรือคนจามตามทิศต่างๆ ท่านทำนายไว้ ดังนี้
1. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างหน้า ทายว่า ให้รีบไป จะมีลาภ ประสบโชค

2. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างหลังทายว่า ไม่ควรไป จะประสบทุกข์หรือได้รับความผิดหวัง

3. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างขวา ทายว่า เร่งทำอะไร ๆ ตามที่คิดไว้เถิด ดีมาก จะมีโชคลาภ

4. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างซ้าย ทายว่า อย่างเดินทางไกลจะประสบความเดือดร้อน

5. จิ้งจกทักหรือคนจาม ข้างเบื้องบน ทายว่าจะเดินทางไกลจะประสบความเดือดร้อน

6. จิ้งจกทักหรือคนจาม อยู่บนทางเท้า ทายว่า จะเดินทางไกลไปไหนมาไหนก็ดี จะมีโชคลาภ ชนะศัตรูทั้งปวงแล

แก้วนพรัตน์

ในการเลือกซื้อเครื่องประดับไม่ว่าจะเป็น เพชรนิลจินดา พลอย มุขต่างๆ บางคนอาจเลือกด้วยสีที่ตนชอบหรือราคาที่พอเหมาะในการเลือกซื้อ ทั้งนี้ ตำราโบราณกล่าวถึงนพรัตน์ 9 ชนิด ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนอาจพิจารณาจากวันเกิด เดือนเกิด ปีเกิด เพื่อให้สามารถเลือกแก้วที่เหมาะสมกับตนเอง โดยมีความเชื่อว่าเครื่องประดับเหล่านั้นแต่ละชนิดจะเหมาะสมสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางชนิดอาจให้ทั้งคุณและโทษกับผู้ที่เป็นเจ้า ทางโหราศาสตร์จึงวางหลักไว้ว่า ท่านผู้เกิดวันเดือน ปีนั้น ๆ ควรมีเครื่องประดับชนิดใดจึงจะเป็นสิริมงคลกับตัวเอง
ขอกล่าวถึงลักษณะวัน เดือน ปี ที่ควรมีหรือใช้แก้วชนิดใดเป็นเครื่องประดับเรือนกาย อย่างนี้
แก้วกับวันเกิด

คนเกิดวันอาทิตย์ ควรประดับหรือมี แก้วโกเมน เพทาย
คนเกิดวันจันทร์ ควรประดับหรือมี แก้วมุกดา หรือเพชร
คนเกิดวันอังคาร ควรประดับหรือมี แก้วบุษราคัม
คนเกิดวันพุธ ควรประดับหรือมี แก้วมรกต
คนเกิดวันพฤหัสบดี ควรประดับหรือมี แก้วไพฑูรย์
คนเกิดวันศุกร์ ควรประดับหรือมี แก้วเพชรหรือมุกดา
คนเกิดวันเสาร์ ควรประดับหรือมี แก้วนิลหรือทับทิม

เดือน 5 ควรประกอบด้วย แก้วมรกต
เดือน 6 ควรประกอบด้วย แก้วเพชร
เดือน 7 ควรประกอบด้วย แก้วนิล
เดือน 8 ควรประกอบด้วย แก้วมรกต
เดือน 9 ควรประกอบด้วย แก้วโกเมน
เดือน 10 ควรประกอบด้วย แก้วไพฑูรย์
เดือน 11 ควรประกอบด้วย แก้วบุษราคัม
เดือน 12 ควรประกอบด้วย แก้วมุกดา
เดือน 1 (อ้าย) ควรประกอบด้วย แก้วโกเมน
เดือน 2 (ยี่) ควรประกอบด้วย แก้วมุกดา
เดือน 3 ควรประกอบด้วย แก้วมุกดา
เดือน 4 ควรประกอบด้วย แก้วเพทาย

แก้วกับปีเกิด

ปีชวด ควรประดับด้วย แก้วโกเมน
ปีฉลู ควรประดับด้วย แก้วมุกดา
ปีขาล ควรประดับด้วย แก้วเพทาย
ปีเถาะ ควรประดับด้วย แก้วไพฑูรย์หรือมรกต
ปีมะโรง ควรประดับด้วย แก้วไพฑูรย์
ปีมะเส็ง ควรประดับด้วย แก้วเพชร
ปีมะเมีย ควรประดับด้วย แก้วนิล
ปีมะแม ควรประดับด้วย แก้วมุกดา
ปีวอก ควรประดับด้วย แก้วบุษราคัม
ปีระกา ควรประดับด้วย แก้วโกเมน
ปีจอ ควรประดับด้วย แก้วมรกต
ปีกุน ควรประดับด้วย แก้วไพฑูรย์

แก้วนพรัตน์ คือ แก้ว 9 ประการ คือ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย ไพฑูรย์ รวม 9 ชนิด

1. เพชร เป็นอัญมณีที่เกิดจากการทับถมของผลึกคาร์บอนภายใต้แรงอัดมานานหลายร้อยปี ทำให้เป็นแร่ที่มีความแข็งแรงมากที่สุดในโลก มีลักษณะผลึกโปร่งใส มีหลายหลายสี ถือเป็นอัญมณีที่มีราคาแพงที่สุด นิยมนำมาทำหัวแหวน มงกุฏ หรือเครื่องประดับอื่นๆ

2. ทับทิม เป็นญมณีสีแดง มีมากในจังหวัดจันทบุรี ราคาพอประมาณหาซื้อได้ทั่วไป

3. มรกต เป็นอัญมณีสีเขียว หากเป็นสีเขียวเข้มหรือเขียวใบไม้ทั้งเนื้อจะมีราคาแพงที่สุด นิยมนำมาแกะพระพุทธรูปบูชา และทำสร้อยคอ หัวแหวน

4. บุษราคัม เป็นอัญมณีสีเหลือง มีประกายเล็กน้อย นิยมทำหัวแหวน และสร้อยข้อมือสตรี ราคาพอประมาณ หาซื้อได้ทั่วไป

5. โกเมน เป็นอัญมณีสีแดงเข้มค่อนข้างดำ สีเข้มกว่าทับทิม ค่อนข้างหายาก ราคาไม่สู้แพง คนนิยมนำมาทำเครื่องประดับพวกแหวน สร้อยคอ

6. นิล เป็นอัญมณีสีดำสนิทแข็งดุจหิน ประเทศไทยพบมากมากทางจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ราคาพอปานกลาง นิยมใช้เป็นเครื่องประดับสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงสูงวัยที่มักใส่ไปงานศพ

7. มุกดา เป็นอัญมณีที่เกิดจากแร่ชนิดหนึ่ง มีลักษณะสีขาวนวลหรือหมอกมัว คล้ายไข่มุก มักมีราคาแพงเพราะหายาก มักมีการแอบอ้างทำปลอมขึ้นมาขาย

8. เพทาย เป็นอัญมณีที่เกิดจากแร่พวกซิลิเกต มีหลากหลายสี มักมีการเผาเพื่อให้เกิดสีตามต้องการ โดยสีฟ้า และสีขาว จะมีราคาแพงแพงสุดเพราะหายากในธรรมชาติ และเป็นที่นิยมมาก

9. ไพฑูรย์ เป็นอัญมณีที่เกิดจากแร่ชนิดหนึ่ง มีหลากหลายสี มีลักษณะพิเศษคือ มีเส้นลากผ่านกลางเม็ดคล้ายนัยตาแมวบางท่านเรียกว่า “เพชรตาแมว” หรือ “แก้วสีไม้ไผ่” ราคาค่อนข้างแพงขึ้นอยู่กับสี และความนิยม มัมาทำหัวแหวน สร้อยคอ เป็นต้น
ระดับ

ตำราดูลักษณะเด็กทารก


ดูลักษณะเด็กทารก 10 ประการ ว่าดีหรือไม่ดี มีดังนี้
1. เด็กอ่อนร้องเสียงดัง จะมีบุญวาสนาดี

2. ร้องเสียงค่อย จะมั่งมีศรีสุข

3. ร้องเสียงถี่ ๆ จะเป็นเด็กแข็งแรง

4. ร้องประเดี๋ยวประด๋าว จะเจริญเติบโตเร็ว

5. หากนอนหลับง่าย จะพบกับความสุขในชีวิต

6. ถ้านอนหลับยาก จะมีชีวิตที่ตรากตรำ

7. ถ้าเด็กดูดนมช้า เป็นคนใจลังเล

8. ถ้าเด็กดูดนมค่อย ๆ จะได้เป็นขุนนาง

9. ถ้าเด็กดูดนมแรง จะมีชัยชนะรุ่งโรจน์

10. ถ้าเด็กดูดนมด้วยอาการสงบ จะมีบุญอำนาจวาสนา

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จุดประสงค์ของการเผยแพร่


จุดประสงค์ของการเผยแพร่






จุดประสงค์ของการเผยแพร่

ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดทำและเผยแพร่โดยคณะศิษย์ อาจารย์พงษ์ พุทธาคม
  1. เพื่อประกาศเกียรติคุณของครูบาอาจารย์ ให้เป็นที่ประจักษุ์
  2. เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ครูบาอาจารย์สั่งสอน ไม่ให้สูญหาย
  3. เพื่อเผยแพร่ความรู้บทความที่มีประโยชน์แก่ผู้สนใจใฝ่ศึกษา
  4. เพื่อให้คำปรึกษาและชี้แนะแนวทางแก่ผู้สนใจ

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ สักยันต์ จอมขมังเวทย์ ชำนานทั้ง สัก เสก เลข ยันต์ ว่าน ยา คาถา อาคม โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ จัดว่ารอบรู้ไม่เป็นรองใคร


ประวัติ 

ของลูกจากสิงศักดิ์สิทธิ์

      หากจะกล่าวถึงชาติกำเนิด ของท่านอาจารย์ พงษ์ พุทธาคม แล้วละก็คงต้องเล่าย้อนความไปถึงสมัยที่คุณแม่ของอาจารย์ ท่านแต่งงานในช่วงอายุย่างเข้า 40 ปี นับว่าอายุมากแล้วสำหรับหญิงที่จะแต่งงานมีลูก ด้วยความเกรงว่าจะไม่มีลูกหรือมีแล้วไม่แข็งแรง เลยได้ไปบนบานวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ตนนับถือ ในสมันนั้นมีศาลเทพาอันศักดิ์สิทธิ์ ของพ่อแก่แห่งเขาชีจรรย์ ที่ไม่ว่าใครไปลบหลู่ได้เห็นดี คนทรงประจำศาล ชื่อ แม่จำลอง เป็นร่างทรง ได้ประทับทรงองค์พ่อแก่ และได้บอกว่าจะให้มีบุตรสืบสกุล แต่ต้องยกให้เป็นลูกหลายพ่อแก่ 

แรกเกิดนั้น สุขภาพไม่แข็งแรง น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ทั้งยังเกิดมาไม่มีทวารหนัก จึงต้องได้รักการผ่าตัดแต่แรกเกิด คนโบราณในสมัยนั้นจึงแนะนำให้มารดานำไปฝากเป็นลูกพระ แม่จึงนำตัวไปถวายให้เป็นลูกพ่อแก่ตามคำสัญญา 
     คงจะด้วยเหตุนี้กระมั้ง จึงทำให้ท่านอาจารย์พงษ์ จึงมีวาสนาที่ต้องคอยพัวพันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ

สัมผัสพิเศษ

     ถ้าจะกล่าวถึงชีวิตในวัยเด็กวัย3-7ปี ของท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคมนั้น นับเป็นการใช้ชีวิตแตกต่างจากเด็กทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะแทนที่ท่านจะเที่ยวเล่นเหมือนเด็กทั่วไป ท่านกลับชอบปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ พูดคุยสนธนาซักถามข้อหลักธรรมกับพระภิกษุ และพูดคุยเชิงความรู้กับผู้สูงอายุ
 นอกจากการพูดจาของท่านอาจารย์ ในวัยเด็กที่มีเหตุมีผล อิงหลักธรรมเหมือนผู้ใหญ่แล้ว ท่านยังมีสัมผัสพิเศษ ทำนายทายทักเหตุการล่วงหน้าได้แม่นยำ จนเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นเด็กพิเศษ จนสุดท้ายเรื่องชักไปกันใหญ่ ด้วยความเป็นห่วง แม่ท่านจึงสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวพูดคุย กับเรื่องราวทำนองนี้กับใครอีกเด็ดขาด ก็ถ้าลูกเป็นอย่างนี้ใครบ้างละจะไม่ห่วง

เรียนวิชาจากตำราบรรพบุรุษ


    อันชื่นว่าคนมีบุญวาสนาหนีอย่างไร ก็ใช่จะหนีพ้น โชคชะตาก็ขีดเส้นนำทางให้ต้องมาเป็นอาจารย์ช่วยคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านอาจารย์ในวัย10 ปี ที่มักหาหนังสืออ่านไปเรื่อยเปื่อย จนไปซุกซนค้นหนังสือเก่าที่พ่อแม่เก็บใว้  และพบตำราของคุณปู่ชั๊วปู่ของท่านที่เป็นหมอกลางบ้าน มีทั้งตำราโหราศาสตร์ กับตำรายา แถวพบเสื้อยันต์ผู้โพกศรีษะและตำราเก่า ลายมือหลวงพ่ออี๋วัดสัตหีบ ที่คุณตาเฮงคุณตาของท่าน เคยเก็บรักษาไว้ ท่านได้แอบเรียนและจดจำนำมาช่วยผู้คนทดลองวิชาเรื่อยมา


มีครูปกปักรักษา

     ในขณะที่การช่วยคนก็ดำเนิมาเรื่อยๆ จนคุณพ่อคุณแม่ของท่านเริ่มยอมรับต่อโชคชะตา และเส้นทางชีวิตที่ท่านเลือกเดิน คุณแม่ของท่านอาจารย์ถึงจะเปิดใจยอมรับก็จริงอยู่ แต่ยังเกรงว่าหากไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำสักวันต้องบ้าบอ เพี้ยนไปแน่ จึงได้พาไปหาครูดีๆให้เป็นครูที่ช่วยแนะนำให้ ซึ่งในสมันนั้นการจะหาครูบาอาจารย์ก็ไม่ใช่หากันง่ายๆ คุณแม่ท่านรู้จักเป็นเพื่อนสนิดคุ้นเคยกับร่างทรงท่านหนึ่ง ที่เป็นของแท้มีปาฏิหาริย์ปรากฏเป็นที่เด่นชัดให้คุณแม่ได้สัมผัส บ่อยครั้ง นั่นคือร่างทรงเจ้าพ่อนพเกล้า จึงได้นำลูกมาฝากตัวใช้ช่วยแนะนำ เมื่อเจ้าพ่อประทับทรงกลับให้ความสนิดเรียกท่านอาจารย์ว่าหมอน้อย และได้มอบขันต์ครูให้พร้อมบอกว่าเด็กคนนี้มีครูพ่อแก่รักษาอยู่แล้ว รับขันต์ไปเพียงเพื่อปฏิบัติก็พอ อนาคตจะได้สร้างบารมช่วยคนแน่นอน นับแต่วันที่ได้มีครูเป็นเรื่องเป็นราว วิชาที่ท่านมีก็ก้าวหน้าจนเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ใครเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็จะผ่อนคลายไปเมื่อได้รับการช่วยเหลือแนะนำ จากท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคม

สู่การบรรพชาแสวงหาสัจธรรม

     หลังจากการรับขันต์ครูมาศึกษาปฏิบัติ นานวันเข้าจิตใจท่านอาจารย์ก็ได้คิดถึงแต่การสร้างสมบารมี และการสร้างบารมีจะมีวิธีไหนดีไปกว่าการบวชได้ ท่านจึงคิดหวังถึงการบวชอยู่ตลอดมา จนเมื่อจบการศึกษามัถยมปีที่3 ท่านจึงขอคุณแม่ออกบวช แต่ท่านไม่ยอม ท่านจึงจำใจต้องหนีออกจากบ้าน โดยได้รับการช่วยเหลือจากพระภิกษุที่ท่านรู้จัก จนในที่สุดแม่ท่านก็ต้องจำใจยอมต่อข้อเรียกร้องในการบวช อาจารย์พงษ์ พุทธาคม ได้ออกบรรพชาเป็นสามเณร ติดตามรับใช้ครูบาอาจารย์ คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม ด้วยความสามารถและความเฉเลียวฉลาดของท่านอาจารย์พงษ์ ทำให้หลวงพ่อมีความเมตตาต่อท่านอย่างมาก ได้ติดตามหลวงพ่อเดินทางไปทั่วประเทศไทย มีโอกาศได้กราบนมัสการ รับฟังโอวาทธรรมะ คำสอน และความรู้มากมาย จากพระเกจิคณาจารย์ หลายรูป ทั่วประเทศ 

เรียนวิชาหาของจริงถึงชายแดนเขมร


หลังจากการบวชเณรศึกษาปฏิบัติได้นานถึง 3 ปีกว่า ได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อป่วย และคุณแม่ก็ต้องคอยดูแล ถึงในใจท่านจะไม่อยากลาสิกขาแต่ก็ตัดใจสึกออกมาเพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดี และปลงใจไว้ว่าหากมีโอกาศดี ภาระทางบ้านสิ้นสุดลงท่านคงได้บวชอีก ก่อนสึกท่านได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิดของท่านว่าควรหาวิชาสักยันต์ติดตัวไว้บ้าง หลังจากสึกแล้วก็ได้แสวงหาวิชาในฐานะฆราวาส ตามความสะดวกและเวลาที่ว่างเว้นจากการงานทางบ้าน 

จนได้พบครูสักท่านแรก คือ อาจารย์ประเวทย์ ซึ่งเป็นลูกชายของหลวงพ่อสมหวัง แห่งเขาสมิง ปรมจารย์ท่านหนึ่งในสายสักยันต์พ่อแก่ ได้ร่ำเรียนอยู่พอสมควร 
และได้รับการฝากฝังให้เป็นศิษย์ อาจารย์ยี แห่งโค้งสนามเป้า ซึ่งท่านเป้นศิษย์สายตรงจากท่านพ่อเยื่อ วงศ์น้อย ปรมจารย์ในตำนานของสายสักยันต์พ่อแก่
ต่อมาจึงได้ไปศึกษากับท่านอาจารย์วีรพงศ์ แห่งอำเภอพายุ จังหวัดศรีสะเกด ท่านอาจารย์พงษ์ได้ติดตามอาจารย์วีรพงศ์เดินทางธุดงค์เรียบชายแดนประเทศเขมร เพื่อเป็นประสปการในการศึกษาพบเจออาคมเขมรของจริง เรื่องราวที่ประสปมาคงไม่อาจนำมากล่าวให้จบลงในที่นี้ได้ คงบอกได้แต่เพียงแค่ว่าของในแถวชายแดนยังมีอยู่มาก แม้นแต่ทหารในแถบนั้นก็ยังไม่อยากที่จะ แตะต้องคณะเดินทางใดๆที่เดินทางในแนวธุดงค์ปฏิบัติในแถบนี้ เพราะเกรงในเวทย์วิทยาคม ก็ลองคิดกันเล่นๆดูซิว่า ใครจะอยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกับของไม่เห็นตัว

หลังจากนั้นท่านอาจารย์พงษ์ ยังได้ออกเดินทางไปของเรียนวิชาจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน  ไม่ว่าจะเป็นสายฤาษี ทั้งในภาคเหนือ ภาคอิสาน และสายสักยันต์ในภาคกลาง
แล้วจึงมาศึกษาวิชาในสายหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง กับท่านอาจารย์โพธิ์ดำ

การศึกษาและปฏิบัติที่ไม่มีวันจบ


หลังจากการเที่ยวตระเวรศึกษาหาความรู้ไปทั่วทุกสารทิศ จนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคม ก็ได้เปิดสำนักเพื่อเผยแพร่คุณธรรม วิชาความรู้ และช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนต่างๆ ด้วยวิชาความรู้ที่เล่าเรียนมา 

ไม่ว่าใครที่ได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ท่านก็มักจะสั่งสอนศิษย์ให้ดำรงค์ตนอยู่ในศิลธรรม คุณงามความดี อย่าได้เอาวิชาที่ท่านให้ไปทำให้ใครเดือดร้อน มิเช่นนั้นกรรมก็อาจตกแก่ทั้งท่านและศิษย์ 
ถึงในทุกวันนี้จะมีคนเข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านมากมายเพียงไหน ท่านอาจารย์พงษ์ ก็ยังคอยหาเวลาปฏิบัติ และศึกษาแสวงหาความรู้เพื่มเติม เพื่อพัฒนาตนให้ยิ่งๆขึ้นไป
ท่านบอกว่า "สำหรับท่านแล้ว เรื่องวิชามันเรียนได้ไม่รู้จบ ไม่มีวันอิ่ม ไม่มีวันพอ" 
จึงนับว่าท่านเป็นผู้คงแก่เรียนอย่างยิ่ง อันหาได้ยากในยุคปัจจุบันนี้


ตำราที่ท่านเรียนมามีตั้งแต่ การทำนายดวงชะตา ด้วยตำราต่างๆทางโหราศาสตร์ เลขศาสตร์ และอื่นๆอีกมาก
การลงเสน่ห์ ลงทอง นะเมตตา สาริกา นะ7จุด ต่อเส้นลายมือ ต่อชะตา พลิกชะตา เสริมราศรี สักเสกเลขยันต์ ลงคาถาอาคม อาบน้ำมนต์ สะเดาะพระเคราะห์ ทำเทียนเสริมดวง สืบชะตา ฆ่าอาถรรพณ์ไฝ-ปานบนร่างกาย ทำเครื่องรางต่างๆใว้เสริมตัวด้านเมตตา แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ คงกระพัน เรียกว่ามีครบถ้วนเจนจบ

อาจารย์ท่านร่ำเรียนมาหลายสาย จนเป็นที่ยอมรับกัน ในกลุ่มอาจารย์ และลูกศิษย์ แถบ พัทยา สัตหีบ ว่ามีวิชาอาคม ตำหรับตำรา ร่ำเรียนมามาก อีกทั้งประสปการที่เจนจัด ในการทำพิธีต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นสุดยอดฆราวาสที่น่านับถือ อีกท่านนึงที่ต้องนำคุณงามความดี และจาริยะวัตรที่น่าเคารพ มาเผยแผ่ให้สังคมรับรู้ คำกลอนโบราณว่าใว้ว่า

เพชรย่อมฉาย ประกายกล้า ให้ปรากฏ
แม้นถูกบด บังอยู่ ในภูผา
เปรีบยเสมือน คนดี มีวิชา
อยู่ที่ไหน ไม่ไร้ค่า หน้าภูมิใจ

คนที่มีความน่าเคารพ น่าเข้าใกล้ น่าต้อนรับ น่าเกรงใจ มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน .. คือ
  1. ผู้มีคุณธรรมสูง เช่นพระอริยะบุคคล และผู้กระทำความดี
  2. ผู้มีสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ
  3. ผู้มีสุขุมาลชาติ คือรูปร่างผิวพรรณงดงาม
เมื่อพิจารณาดังคำโบราณว่า ก็จะเป็นได้ว่า ท่านอาจารย์ท่านนี้ จัดเป็นยอดบุคคลที่น่านับถือ

สนใจติดต่อที่  https://www.facebook.com/profile.php?id=100005962051265&fref=ts

Id Line : pbbt 

ดูลายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://themagiccharmtalismanpattaya.blogspot.com/